"ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ได้เปิดใจกับทีมปรีโอลิมปิก ว่า "ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เราเพิ่งจะก้าวพ้นคำว่าอาเซียนเข้ามาสู่เวทีเอเชีย ซึ่งทีมชุดนี้จะได้ลองปะทะแข้งกับทีมชั้นนำของเอเชียเป็นทีมแรกในปี 2016 ที่ใกล้จะมาถึงในเดือนหน้า"
"เพราะในปีหน้ามีทั้ง 16 ปี และ 19 ปี ที่จะได้เข้าไปเล่นในรอบเอเชียเหมือนกัน และหากว่าทีมชุดใหญ่ สามารถหลุดเข้าไปในรอบ 12 ทีมสุดท้าย ของศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ได้ จะถือว่าเป็นความสำเร็จของฟุตบอลไทยอย่างยิ่ง"
"ทว่าในทีมปรีโอลิมปิกหลายคนเคยทำงานร่วมกันมา 1-2 ปี ทำให้เข้าใจระบบแท็กติกกันแล้ว นอกจากนี้ยังเจอกับทีมระดับเอเชียอย่าง จอร์แดน, อิรัก, จีน มาหมดแล้ว อีกทั้งทุกวันนี้ทีมชุดใหญ่ของต่างประเทศยังเน้นในการดันเด็กอายุ 23-25 เข้ามาสู่ทีม ฉะนั้นการไปต่อสู้ครั้งนี้ น่าจะทำให้เราได้รับรู้ถึงศักยภาพทีมดีขึ้น"
มั่นใจทุกคนรวมทั้งอีก 7 แข้งฟิตลุยกับทีมแน่
จากกรณีที่ยังมี 7 ผู้เล่นที่ยขังไม่ได้มารายงานตัว ทั้ง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่ไปทดสอบฝีเท้ากับ เอหซี โตเกียว ตลอดจน สุริยา สิงห์มุ้ย, สุพรรณ ทองสงค์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ จาก เอสซีจี เมืองทองฯ ขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มี นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม และ เชาว์วัฒน์ วีระชาติ จะรับใช้ต้นสังกัดในรอบชิงชนะเลิศ ศีก ช้าง เอฟเอ คัพ 2015 วันที่ 26 ธ.ค.นี้ แล้วนั้น
นายใหญ่ของทีมชาติไทย บอกว่า "ผมคิดว่าทั้ง 7 คนไม่น่าจะมีปัญหาในการตามเข้าแคมป์ โดย วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ถือว่าเป็นเป้าหมายของสโมสรและทีมชาติ ที่อยากจะเห็นเจ้าตัวได้ไปเล่นฟุตบอลอาชีพในต่างประเทศ ก่อนที่จะตามมาสมทบทีม"
"ขณะที่ 6 นักเตะจาก เอสซีจี เมืองทองฯ กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พวกเขายังติดภารกิจกับสโมสร แต่ผมยังมั่นใจว่าจะรักษาความฟิตได้ดีแน่นอน เพราะเกมสุดท้ายพวกเขาต้องเล่นกันโดยมีถ้วย ช้าง เอเอฟ คัพ 2015 อยู่ตรงหน้า ทำให้เมื่อตามมาสมทบจะใส่แท็กติกได้ทันที"
หวังผ่านไปรอบสอง, ชูมีสิทธิ์ถึงรอบรอง
และการไปเล่นในรายการ เอเอฟซี ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย ครั้งนี้ "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แม่ทัพ "ช้างศึก" ได้เปิดเผยอย่างมีจิตวิทยาว่า ถึงเวลานี้ตนได้ข้อมูลจากการอุ่นเครื่อง 2 เกมล่าสุดของญี่ปุ่น ที่เสมอมาทั้งหมดจากทาง อิจิโร่ ฟูจิตะ ประธานเทคนิคของสมาคมฟุตบอลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ 2 ผู้ช่วยโค้ชอย่าง โชคทวี พรหมรัตน์ กับ อภิสิทธิ์ ไข่แก้ว ยังช่วยหาข้อมูลของ ซาอุดิอาระเบีย กับ เกาหลีเหนือ มาให้ ซึ่งตนมองว่าคงจะไม่ยากเกินไปสำหรับทีมชาติไทย ในการลงเล่นทั้ง 3 เกมรอบแรก ตลอด 10 วันที่ประเทศกาตาร์
โดยตนมองไปที่การเก็บให้ได้ 3 คะแนนจากซาอุดิอาระเบีย กับ 2 แต้มจาก ญี่ปุ่น และเกาหลีเหนือ รวมทั้งมีสิทิ์เช่นกันที่จะชนะ 3 เกมรวด เพื่อเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งหากว่าทุกคนช่วยกันอย่างเต็มที่ตนมั่นใจว่ามีโอกาสมากทีเดียว ที่ทีมชาติไทยจะเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ ถ้าทำได้โอกาสที่ทีมจะไปโอลิมปิกก็มีสูง
เร้า "มังกรไฟ"ลืมอดีตมีสมาธิ
พร้อมกันนี้อดีตกุนซือจอมตีลังกาของทีมชาติไทย ยังออกมากระตุ้น 7 นักเตะ "มังกรไฟ"บีอีซี เทโรศาสน ประกอบด้วย สมพร ยศ, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, ทริสตอง สมชาย โด, อดิศร พรหมรักษ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ เจนรบ สำเภาดี ที่แม้ว่าทีมตกชั้นไปเล่นใน ยามาฮ่า ลีก วัน ซีซั่นหน้า แต่ต้องมีสมาธิกับทัพ "ช้างศึก"ให้ได้มากที่สุด
"ผมรู้ดีว่าหลายคนอาจจะเครียดมาจากผลงานกับสโมสร แต่ผมอยากจะให้ทุกคนลืมเรื่องของต้นสังกัดสักระยะ เพราะการมาเล่นให้กับทีมชาติไทย ไม่ใช่แค่เพียงเกียรติประวัติของตัวเองเท่านั้น เนื่องจากยังรวมถึงการเล่นให้กับประเทศชาติ และในหลวงอีกด้วย"
เจ็บถอนได้แต่แหกกฎโดนตัดชื่อทันที
"ซิโก้"ยังพูดถึงกฎเหล็กอีกว่า "ทีมของเราไม่มีคำว่าซูเปอร์สตาร์ เพราะ 2 ปีที่ผ่านมานักเตะทุกคนถือว่าสร้างผลงานจนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ทั้งนั้น แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในกฎระเบียบที่เราได้วางไว้ทั้ง 4 ข้อ นั่นคือ ห้ามดื่มเหล้า, ห้ามสูบบุหรี่, ห้ามหนีเที่ยว และห้ามเล่นการพนัน ที่เราได้วางกฎไว้ในทุกชุด"
"หากว่าทั้ง 4 อย่างมีนักเตะคนใดที่ปฏิบัติเราจะหาชื่อออกจาทีมในทันที ไม่เหมือนกับคนที่ได้รับบาดเจ็บเพราะมีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนตัวได้ หลังจากที่เราได้ส่งรายชื่อเพื่อขึ้นทะเบียนกับทางเอเอฟซีจำนวน 50 คน"
หากฟิตปล่อยพักปีใหม่, ตัดตัว 30 ธ.ค.
นอกจากนี้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย ชุดปรีโอลิมปิก ยังได้พูดถึงการเตรียมความพร้อมของนักเตะว่า "ในช่วงแรกที่เราเข้ามาเก็บตัว อยากจะให้ผู้เล่นทั้งหมดมีความตั้งใจในเรื่องของการฝึกซ้อม โดยเฉพาะการเรียกความฟิตให้ได้มากที่สุด"
"เพราะอย่าลืมว่าการไปเล่นในเวทีเอเชียครั้งนี้ เราต้องเจอกับทีมที่แข็งแกร่งด้วยกันทั้งนั้น ทำให้สรรถภาพทางร่างกายของเราจะต้องดีตามไปด้วย หากว่าการไปเก็บตัวที่ กิเลน วัลเลย์ แล้วทุกคนทำผลงานออกมาได้ดี เราจะให้พักในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างน้อย 2 วัน คือ วันที่ 30 ธ.ค. และวันที่ 1 ม.ค."
"อย่างไรก็ตามก่อนที่จะถึงเทศกาลปีใหม่ เราจะทำการฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น เพื่อทำการตัดตัวอีก 2 คน และประกาศรายชื่อ 23 คนที่จะไปกาตาร์ วันที่ 30 ธ.ค.นี้ ซึ่งสาเหตุที่เราดึง มีโชค มหาศรานุกูล กับ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ เข้ามา เพราะเราต้องการเปิดโอกาสให้นักเตะรุ่นใหม่ ได้มีโอกาสมาซึมซับกับพวกรุ่นพี่ จนวันหนึ่งเมื่อเขาแข็งแกร่งเราจะสามารถใช้งานพวกเขาได้ทันที"
ไปกาตาร์ล่วงหน้าเพื่อปรับอากาศ
กรณีที่ทีมชาติไทย ชุดปรีโอลิมปิก จะออกเดินทางไปประเทศกาตาร์ ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.2016 นั้น "ซิโก้"เกียรติศักด์ เสนาเมือง เฮดโค้ชของทีม บอกว่า "สาเหตุที่เราต้องไปก่อนล่วงหน้า 10 วัน เนื่องจากผมต้องการให้นักเตะปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศเร็วที่สุด"
"เนื่องจากในช่วงเดือน ม.ค. แถบตะวันออกกลางจะอยู่ในช่วงที่หนาวเย็นแบบแห้งๆ ซึ่งผมเองและ อภิสิทธิ์ ไข่แก้ว เคยสัมผัสมาแล้วสมัยที่ยังเป็นนักเตะ ทำให้เรารู้ดีว่าเมื่อต้องเจอกับสภาพอากาศไม่ถึง 15 องศาเซลเซียส จะมีผลต่อนักเตะอย่างแน่นอน ทั้งในเรื่องของการวิ่ง หรือการเข้าทำเกมรุกและรับ"
หวัง "ช้างศึก"หล่อเหมือนทีมระดับโลก
"ซิโก้"ยังได้แจงในเรื่องของการแต่งตัวอีกว่า "ทีม ยู 23 ผมยังต้องการให้ทุกคนใส่เสื้อเข้าในกางเกงเหมือนเช่นเดิม เพราะอย่าลืมว่าหลายคนยังเด็กอยู่ แม้จะมีบางส่วนที่ขึ้นไปเล่นกับทีมชุดใหญ่ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับอภิสิทธิ์ในส่วนนี้แต่อย่างใด"
"อีกทั้งในรอบ 1-2 ปีที่ผ่านมา เราได้รับคำชมในเรื่องของความมีวินัยในการแต่งตัวอย่างมาก ฉะนั้นหากทุกคนทำได้ดีแล้วก็ต้องสานภารกิจต่อไป ที่สำคัญผมจะหาสูทเหมือนทีมชุดใหญ่ และหูฟังดีๆมาให้กับนักเตะทุกคน ได้แต่งกายดูดีเหมือนกับทีมชั้นนำระดับโลก อย่าง สเปน, อิตาลี และญี่ปุ่น"
เป้าหมายชุดใหญ่ท็อป 10 ของเอเชีย
จากการที่ ฟีฟ่า ได้ทำการประกาศแรงกิ้งครั้งสุดท้ายของปีนี้ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฎว่า ทีมชาติไทย ขยับขึ้นมาถึง 11 อันดับ จากเดิมอันดับ 144 ของโลก, อันดับ 22 เอเชีย, อันดับ 2 อาเซียน ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 133 ของโลก, อันดับ 18 เอเชีย และอันดับ 1 ของเซียนในรอบ 2 ปีแล้ว โดยมีเพิ่มเป็น 263 คะแนน
ทำให้ "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้เปิดใจถึงเป้าหมายต่อไปว่า "ถือเป็นเรื่องดีที่ชุดใหญ่กลับมาเป็นเบอร์หนึ่งอาเซียนอีกครั้ง และมาอนยู่ในทา 18 ของเอเชีย แต่ถ้าเราสามารถผ่าน อิรัก ในเกมสุดท้ายได้ โอกาสในการขึ้นไปเป็นที่ 12 ของเอเชีย พร้อมกับไปเล่นในรอบ 12 ทีมสุดท้ายก็มีสูง"
"แต่ผมคิดว่าเป้าหมายที่แท้จริง คือ อยากจะพาทีมชาติไทย ขึ้นไปอยู่ท็อปเท็นของเอเชีย แม้ว่าจะต้องเจอกับทีมชั้นนำมากมาย ทว่าเราจะต้องพยายามไปให้ถึงฝั่งฝันให้ได้เหมือนกัน"