ข่าวคราวความคืบหน้าการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นที่สนใจ โดยเฉพาะกรณีที่มาของ 30 เสียงจากลีกภูมิภาคว่าจะมีการเลือกตั้งกันใหม่หรือไม่ ล่าสุดสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า โดย มร.มาร์คัส แคตเนอร์ รักษาการเลขาธิการฯ ได้มีหนังสือแจ้งถึงสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 9 ธ.ค. มีใจความว่า
เราได้รับทราบจดหมายของท่าน ลงวันที่ 2 และ 7 ธันวาคม 2558 เกี่ยวเนื่องกับคณะกรรมการกลาง (FAT NC) ซึ่งเนื้อความของจดหมายได้รับการเอาใจใส่เป็นอย่างมาก และขอขอบคุณที่ท่านส่งมา เราขออ้างถึงข้อวินิจฉัยของคณะกรรมการในภาวะฉุกเฉินฟีฟ่า (FIFA Emergency Committee) ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2558 และตามมาด้วยการยืนยันของคณะกรรมการบริหารฟีฟ่า (FIFA Executive Committee) ในฐานะอำนาจสนับสนุนและอ้างอิงสำหรับทุกประเด็นซึ่งเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการกลาง (FAT NC)
สำหรับส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับตัวแทนภูมิภาค 30 เสียงนั้น คณะกรรมการกลางมีหน้าที่รับผิดชอบและอำนาจ บนพื้นฐานของข้อวินิจฉัยของคณะกรรมการบริหารดังกล่าว ที่จะทบทวนการมีอยู่ของข้อบังคับ 6 ภูมิภาคของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (FAT) และทำให้เป็นที่รับรองได้ว่าตัวแทนที่ได้รับเลือกมาจากแต่ละภูมิภาคทำหน้าที่อยู่จริงตรงตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ ดังนั้นจึงเป็นสิทธิ์โดยเฉพาะของคณะกรรมการกลางที่จะตัดสินใจว่าการเลือกตั้งตัวแทนได้กระทำขึ้นตามข้อบังคับของลีกภูมิภาคหรือไม่ และถือปฏิบัติให้สอดคล้องกันด้วยการยืนยันความถูกต้องของตัวแทนหรือรับรองว่าการเลือกตั้งตัวแทนเหล่านั้นได้ดำเนินการอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ในกรณีที่ไม่มีข้อบังคับของลีกภูมิภาค คณะกรรมการกลางจะต้องทำให้แน่ใจได้ว่าจะมีการร่างข้อบังคับขึ้นใหม่ เพื่อใช้สำหรับเลือกตั้งผู้แทนต่อไป
เรามีความเห็นว่าข้อร้องเรียนใดๆ เกี่ยวเนื่องกับกระบวนการทำงานดังที่กล่าวมาแล้ว ควรถูกหยิบยกขึ้นหารือเพื่อหาทางออกกับคณะกรรมการกลางได้โดยตรง
จากหนังสือที่ส่งมา ทางด้าน "ทนายโบ้" นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ประธานฝ่ากฎหมายสมาคมฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า การที่ฟีฟ่าส่งจดหมายระบุมาเช่นนี้ก็หมายความว่าหากลีกภูมิภาคมีข้อบังคับที่ชัดเจน และการได้มาของ 30 เสียงในลีกภูมิภาคเป็นการได้มาอย่างถูกต้องตามระเบียบก็ถือว่าให้ดำเนินการจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ รวมไปถึงสภากรรมการได้ ซึ่งเมื่อมาถึงตรงนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องให้มีการเลือกตัวแทน 30 เสียงของลีกภูมิภาคใหม่
"ที่ผ่านสมาคมฟุตบอลฯ ได้ยืนยันถึงกฎข้อบังคับของลีกภูมิภาคมาโดยตลอด และใช้ข้อบังคับข้อที่ 26.3 ดำเนินการเลือกตัวแทนเสียงจากลีกภูมิภาคทั้ง 6 โซนมาอย่างถูกต้อง รวมถึงมีการรับรองในการประชุมเมื่อวันที่ 17 ก.ย. แล้ว ดังนั้นกระบวนการทุกอย่างที่ได้มาเป็นการทำกระบวนการที่ทางฟีฟ่าระบุทุกอย่าง"
ประธานฝ่ายกฎหมายฯ กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ส่งจดหมายของฟีฟ่าฉบับข้างต้นไปให้คณะกรรมการกลางฯ ที่มี "เสธ.โต" พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ เป็นประธานได้รับทราบแล้วแต่ก็ยังไม่มีการตอบรับใดๆ หลังจากนี้ตนก็จะส่งหนังสือเปิดผนึกไปถึงคณะกรรมการกลางฯ และการกีฬาแห่งประเทศไทยฯ พร้อมกับแนบหนังสือที่ทางฟีฟ่าแจ้งมาไปให้อีกครั้ง
"ฟีฟ่าให้อำนาจแก่คณะกรรมการกลางฯ ทำการตรวจสอบการได้มาของ 30 เสียงลีกภูมิภาคว่ามีการได้มาอย่างถูกต้องหรือเปล่า แต่คณะกรรมการกลางฯ กลับต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงโดยระบุว่ากฎปี 56 ใช้ไม่ได้และให้ใช้กฎปี 58 แทนนั้น ตนคิดว่าไม่ตรงกับประเด็น เพราะการได้มาของ 30 เสียงก็ไม่ได้ผิดกฎทั้งของปี 56 และปี 58 อีกทั้งการกระทำดังกล่าวยังเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตที่ฟีฟ่าให้มาอีกด้วย" ประธานฝ่ายกฎหมายสมาคมฟุตบอลฯ กล่าว