เมื่อวันที่ 26 ต.ค.58 ที่ผ่านมา ที่ ห้องปาริชชาตโรงแรมโกลเด้นทิวลิป พระราม 9 ได้มีพีธีการจับสลากฟุตบอล “ช้าง เอฟเอคัพ” 2015 รอบรองชนะเลิศ โดยงานในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก พันเอก วรวุฒิ ทองศรีงาม เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ,ดร.องอาจ
ก่อสินค้า ประธาน บริษัท ไทยพรีเมียร์ ลีก จำกัด,สุรพล อุทินทุ กรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด,ดร.สรายุทธ มหวลีรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามสปอร์ท ซินดิเคท จำกัด (มหาชน),ทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน ผู้จัดการทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,กานต์ จันรัตน์ ผู้จัดการทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด,พ.อ.ชาญวิทย์ ทองพลับ ผู้จัดการทั่วไป อาร์มี่ ยูไนเต็ด,ศศิธร อยู่ประสงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยนาท เอฟซี ตัวแทนจาก ชัยนาท ฮอร์นบิล ร่วมในพิธี
ซึ่งผลการจับสลากปรากฎว่า เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ อาร์มี่ ยูไนเต็ด คู่นี้ จะแข่งขันที่สนาม ศุภชลาศัย อีกคู่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ ชัยนาท ฮอร์บิล คู่นี้จะแข่งขันที่สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน โดยทั้งสองคู่จะแข่งขันในวันที่ 2 ธ.ค.58 ในเวลา 19.00 น.
หลังเสร็จสิ้นพิธีจับสลาก สุรพล อุทินทุ ได้กล่าวถึงกระแสตอบรับภายหลังจากที่ “ช้าง” เข้ามาสนับสนุนฟุตบอลถ้วย “เอฟเอคัพ” ปีนี้เป็นปีแรก ว่า “ต้องบอกว่าในช่วงปีที่ผ่านมาฟุตบอลไทยถือว่าคึกคักมากในทุกถ้วยทุกรายการ ในส่วนของ “ช้าง เอฟเอคัพ” เองในปีนี้ก็ถือว่าคึกคักมาก ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับการที่ “ช้าง” ได้เข้ามาสนับสนุนการแข่งขันยรายการนี้เป็นปีแรก ส่วนผลการจับฉลากในครั้งนี้ที่ออกมาทั้งสองคู่ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อน่าจะเป็นเกมที่สนุก ก็อยากฝากถึงแฟนๆ เชิญชวนมาร่วมเชียร์ เชื่อว่าทั้งสองนัดจะเป็นเกมที่สนุกแน่นอนครับ”
ด้าน ศศิธร อยู่ประสงค์ ตัวแทนจาก ชัยนาท ฮอร์นบิล กล่าวว่า “ความตั้งใจตั้งแต่ต้นก่อนจับสลากเราก็พร้อมที่จะเจอกับทุกทีม ซึ่งการเจอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เราก็ไม่ได้กังวล เรามั่นใจในทีมงานผู้ฝึกสอน นักเตะ ว่าเราจะสู้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ ซึ่งการเดินทางมาถึงรอบนี้แล้วเป้าหมายของเราคือมองไปถึงตำแหน่งแชมป์”
ส่วน ทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน ผู้จัดการทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เผยว่า “ผมมองว่าทุกทีมที่สามารถเดพินทางเข้ามาถึงรอบนี้ได้ถือว่าไม่ธรรมดา ไม่มีทีมไหนง่าย ในส่วนของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เองเป้าหมายเดียวของเราเท่านั้นคือการคว้าแชมป์”
ขณะที่ กานต์ จันรัตน์ ผู้จัดการทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวถึงผลการจับสลากว่า “มองว่าทั้งสี่ทีมที่เข้ามาในรอบนี้ไม่มีทีมไหนง่าย แต่ผมเองคิดว่าการเล่นในสนามกลางซึ่งอยู่ในกรุงเทพเป็นเรื่องที่โชคดีที่แฟนๆ ของทีมสามารถที่จะเดินทางไปชมในสนามได้จำนวนมาก ซึ่งจะเป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่จะทำให้นักเตะสร้างผลงานได้ดี แต่ก็มีเรื่องกังวลอยู่บ้างเพราะเป็นช่วงท้ายฤดูกาล การจัดตัวผู้เล่นต้องมีการบริหารจัดการให้ดี ทีมงานผู้ฝึกสอนต้องทำงานหนัก อย่างไรก็ตามเป้าหมายเราชัดเจนคือการคว้าแชมป์”
ในส่วนของ พ.อ.ชาญวิทย์ ทองพลับ ผู้จัดการทั่วไป อาร์มี่ ยูไนเต็ด กล่าวถึงการจับสลากที่ต้องเจอกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ว่า “ก็ยอมรับเป็นงานยหนัก แต่เราก็พยายามเตรียมความพร้อมทีมอย่างเต็มที่ แน่นอนว่าเป้าหมายเราในถ้วยนี้ต้องก้าวไปคว้าแชมป์ให้ได้”