ความพร้อมของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ในการลงทำศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย นัดห้า กลุ่ม เอฟ ซึ่ง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชของทีม จะพานักเตะทั้งหมดเปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน ลงพบกับ ไต้หวัน ในวันที่ 12 พ.ย.นี้
เกี่ยวกับเรื่องการประกาศตัวผู้เล่นและการรายงานตัวนั้น "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แม่ทัพ "ช้างศึก" ได้บอกว่า "หลังจากที่ผมกลับมาจากการไปดูงานที่สโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ผมจะหารือกับทีมงานสตาฟฟ์โค้ชในการลิสต์รายชื่อผู้เล่น"
"โดยที่เราจะประกาศรายชื่อล่วงหน้าก่อนการเรียกรายงานตัว1 สัปดาห์ ซึ่งการรายงานตัวครั้งนี้ต้องขอขอบคุณทางทีพีแอลที่มีเวลาให้เราจำนวน 10 วัน ในการเตรียมความพร้อม แต่ผมคิดว่าอาจจะให้มีการรายงานตัววันที่ 5 ต.ค. หรือ วันที่ 6 ต.ค. เพราะเราต้องยึดหลักสากลของฟีฟ่า และให้ความสำคัญต่อต้นสังกัดของนักเตะอีกด้วย"
เป้าแชมป์กลุ่ม,ไม่ยืมจมูกใครหายใจ
นอกจากนี้ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ยังเผยอีกว่า การที่ทีมมีอยู่ 10 คะแนนจาก 4 นัด ในตอนนี้ ถือว่าเป็นไปตามแผนที่ทีมงานทุกคนวางไว้อย่างมาก เพราะทำให้โอกาสในการผ่านเข้าไปเล่นในรอบสามมีมากกว่าเดิม
แต่ตนคิดว่าการที่เหลือ 2 นัด ทั้งการเปิดบ้านเจอกับ ไต้หวัน และออกไปเยือน อิรัก คิดว่าจะต้องคว้าแชมป์กลุ่มให้ได้ เนื่องจากถ้าทีมได้ตำแหน่งกล่าว ไม่จำเป็นที่ต้องไปลุ้นสายอื่น ที่ทีมชาติไทยอาจจะหลุดมาเป็นรองแชมป์ส่งผลต่อการผ่านเข้ารอบต่อไป
ที่สำคัญตนคิดว่าจะไม่มีทางยืมจมูก ไต้หวัน หรือ เวียดนาม หายใจอย่างเด็ดขาด เพราะการลุ้นให้ทั้งสองทีมนี้เอาชนะ อิรัก นั้น น่าจะเป็นสิ่งที่ทีมชาติไทยจะคิดถึงตรงนั้นไม่ได้ ฉะนั้นการเหลืออีก 2 เกม ทีมจำเป็นต้องเล่นเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์
หากเข้ารอบพร้อมหารือกับทุกสโมสร
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ว่าการที่ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ได้เชิญเจ้าตัวไปร่วมหารือกับบอร์ดชุดใหม่ในซีซั่น 2016 ที่จะมี 21 สโมสร เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการวางโปรแกรมนั้น มีความสำคัญมากน้อยเพียงใด เพราะขุนพลจากฝั่งลุ่มน้ำเจ้าพระยายังมีเกมชี้ชะตาในนัดสุดท้าย ในเดือน มี.ค.2016 ด้วยการไปเยือน อิรัก ซึ่งจะเป็นช่วงที่เกมลีกเปิดฤดูกาลใหม่ และหากผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 12 ทีมสุดท้ายได้ จำเป็นต้องมีการหารือกับทุกสโมสรหรือไม่
เรื่องนี้ "ซิโก้" บอกว่า "ต้องขอขอบคุณทางทีพีแอลที่ให้โอกาสกับผมในปี 2016 ที่จะเข้าร่วมประชุมกับบรรดาสโมสรต่างๆ เพราะการเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม เอฟ นั้น เป็นเป้าหมายที่เราจะมองข้ามไปไม่ได้ และหากเข้าไปถึงรอบ 12 ทีมสุดท้ายได้ เราคงจะต้องมาดูโปรแกรมการแข่งขันเกมลีกในปีหน้าอีกครั้งหนึ่ง"