ไทย  6 - เวียดนาม 0

 
         คู่แรก เป็นการพบกันระหว่างทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ดีกรีแชมป์ 10 สมัย ลงสนามพบกับ "นักเตะแดนเหงียน" เวียดนาม ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาแล้วทั้งหมด 13 นัด ไทยชนะ 12 แพ้ 1 โดยแพ้ในการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียนในครั้งที่แล้วที่ประเทศมาเลเซีย ทีมไทยแพ้เวียดนามไป 0-2 ในรอบแรกก่อนที่ทีมไทยจะก้าวไปคว้าแชมป์สมัยที่ 10

 
         เกมนัดนี้ทีมฟุตซอลทีมชาติไทยขนผู้เล่นฟูลทีมลงสนาม ผู้รักษาประตู คณิศร ภู่พันธ์ ผู้เล่น 4 คน ก้องหล้า เหล็กกล้า, ปิยพันธุ์ รัตนะ, กฤษดา วงษ์แก้ว, ศุภวัฒน์ เถื่อนกลาง ส่วนทางด้านเวียดนาม 2 นักเตะตัวเก่งอย่าง เนียง ดิน ทัน นายทวารกับ พัน ทอง รัม ผู้เล่นตัวหลักโดนโทษแบนเพราะไปชกต่อยกับนักเตะออสเตรเลียนอกสนามระหว่างจบการแข่งขันแล้วจึงถูกห้ามลงสนามและในนัดนี้ "บิ๊กเปี๊ยก" สมศักดิ์ ศิริธรรม ผู้จัดการทีม พร้อมด้วย สงคราม ตะวัน มาให้กำลังใจลูกทีมถึงขอบสนามท่ามกลางแฟนบอลเข้ามาเชียร์ทีมชาติไทยแน่นสนาม

 
         เริ่มเล่นเปิดเกมการแข่งขันขึ้นมาทั้งสองทีมเปิดเกมเข้าแลกกันทันที แบบใครดีใครอยู่ และนัดนี้ทีมไทยวางแผนเล่นกดดันทีมเวียดนามในแดนของคู่ต่อสู้ไม่ให้พลิกเกมบุกได้ง่ายๆ และในช่วงสองนาทีแรกมีโอกาสยิงทักทายไป 2 ครั้ง ไม่เข้ากรอบ ผ่านเข้าสู่ น.3 เกมรุกในสนามเริ่มตกเป็นของนักเตะไทยท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนบอลลั่นสนามที่พอใจกับเกมรุกของทีมนักเตะไทย

 
         ผ่านไป 5 นาที ทีมไทยเปลี่ยนเอานักเตะชุดที่สองลงสนามประกอบด้วย อำพล ศรีระแก้ว, เจษฎา ชูเดช, จิรวัฒน์ สอนวิเชียร, ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน เกมในสนามส่วนใหญ่ยังเป็นของทีมไทยที่เป็นฝ่ายครองเกมรุกได้มากกว่า โดยเวียดนามเน้นรับแล้วใช้การสวนกลับเร็วเข้าตอบโต้ทีมไทย ผ่านไปถึง น.9 ทีมไทยเปลี่ยนเอานักเตะชุดแรกที่เป็นชุดเก่งลงสนามอีกครั้ง

 
         แม้ทีมเวียดนามจะมีการเตรียมทีมมาดีส่งทีมเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่สเปนเป็นแรมเดือน แต่เกมในสนามยังสู้ทีมไทยไม่ได้ ทั้งๆ ที่เก็บตัวอยู่ในเมืองไทยเท่านั้น จนการเล่นผ่านไปถึง น.12 วิคเตอร์ เฮอร์แมน กุนซือทีมชาติไทยตัดสินใจใช้นักเตะชลบุรี บลูเวฟ ลงสนามแบบยกชุดทั้ง ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน, กฤษดา วงษ์แก้ว, จิรวัฒน์ สอนวิเชียร และ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง แต่ก็ยังไม่สามารถเปิดประตูแรกทีมจากแดนเหงียนได้

 
         น.16 ทีมไทยหวิดที่จะจวกประตูแรกได้เมื่อ อำพล ศรีระแก้ว ได้บอลนอกเส้นประตูด้านซ้ายยิงบอลพุ่งชนคานบนกระดอนออกหลังประตูไป เกมในสนามทีมนักเตะไทยยังเล่นได้เหนือกว่านักเตะสกุลเหงียน อีก 2 นาทีถัดมา ไทยได้เตะมุมด้านซ้าย ปิยพันธุ์ รัตนะ ตักบอลโด่งยาวมาทางด้านขวาให้ กฤษดา วงษ์แก้ว หวดข้ามคานไปแค่คืบ

 
         น.19 ทีมไทยน่าจะขึ้นนำเมื่อ คณิศร ภู่พันธ์ นายทวารเปิดบอลยาวไปข้างหน้าให้ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง กระชากบอลหลบกองหลังเข้าไปทางด้านซ้ายก่อนที่จะยิงบอลชนตัวนายทวารบอลปลิ้นทำท่าจะวิ่งผ่านเส้นประตูดีที่กองหลังทีมเวียดนามวิ่งสกัดพ้นรอดพ้นการเสียประตูไปแบบเฉียดฉิว จบเกมในครึ่งเวลาแรกสกอร์เสมอกันอยู่ที่ 0-0

 
         เปิดเกมในครึ่งเวลาหลังทีมเวียดนามแก้เกมมาดีเคลื่อนรุกเข้าใส่ทักทายทีมไทยได้ก่อน น.23 หวิดยิงประตูทีมไทยได้ โดย อัน ทัง ตัดบอลจาก ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน กระชากบอลจี้เข้ามาหน้าประตูทีมไทยจังหวะสุดท้ายจะจ่ายบอลขวางสนามให้เพื่อนยิงประตูโดนนายทวารไทย คณิศร ภู่พันธ์ อ่านเกมขาดออกมาตัดบอลเอาไว้ได้

 
         น.24 ไทยเปลี่ยนเอาทีมชุดเก่งอย่าง ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง, กฤษดา วงษ์แก้ว ลงสนามอีกครั้งทำให้เกมของไทยกลับมาสร้างความหวือหวาได้อีกครั้ง อีก 1 นาทีถัดมา ศุกวุฒิ เถื่อนกลาง ได้บอลริมสนามด้านขวาเกือบถึงเส้นหลังเห็นนายทวารวิ่งออกมามากตัดสินใจงัดบอลกะให้ข้ามหัวบอลพุ่งชนหน้านายทวารแดนเหงียนออกหลังประตูไป

 
         ไทยกลับมาเคลื่อนเกมรุกได้อย่างต่อเนื่องทางทีมเวียดนามที่มีการเตรียมทีมมาดีสู้แบบยิบตาชนิดนักเตะไทยทำอะไรไม่สะดวกเท้านัก น.28 ไทยหวิดเสียประตูเมื่อ ทัน วัน วู ตัดบอลได้จากนักเตะไทยส่งบอลพลาดเข้าไปยิงชนคานด้านซ้ายมือนายทวารออกไป อีก 1 นาทีถัดมาแฟนบอลชาวไทยก็เฮกันลั่นสนามเมื่อ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร จิ้มบอลหน้าประตูเข้าไปให้ทีมไทยนำไปก่อน 1-0

 
         น.30 ทีมไทยก็ได้อีกครั้ง เจษฎา ชูเดช ขวางบอลจากด้านขวามาให้ ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน กระชากก่อนยิงบอลเรียดเบียดเสาหนึ่งเข้าไปให้ทีมไทยหนีไปเป็น 2-0 จนทีมเวียดนามต้องหันมาเล่นเพาเวอร์เพลย์ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายที่เหลือ

 
         น.32 ระหว่างที่ทีมเวียดนามเล่นเพาเวอร์เพลย์ออกทางด้านขวาดันจ่ายบอลพลาดไปเข้าเท้า ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ที่ตัดสินใจยิงบอลไกลจากแดนตัวเองอย่างแม่นยำเข้าไปให้ทีมไทยหนีไปเป็น 3-0 เป็นประตูที่ 10 ของศุภวุฒิในการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้ หลังได้ประตูหนีไปเป็น 3-0 ทีมไทยเล่นสบายขึ้นไร้ความกดดันเป็นฝ่ายเคลื่อนเกมรุกเข้าใส่ทีมเวียดนามได้ตลอด

 
         เข้าสู่ช่วง 3 นาทีสุดท้าย เวียดนามฮึดเฮือกสุดท้ายเปิดเกมเข้าใส่ทีมไทยแบบมีลุ้นประตูตีไข่แตกได้หลายครั้ง แต่ คณิศร ภู่พันธ์ นายทวารไทยสุดเฉียบเซฟลูกที่จะเสียประตูเอาไว้ได้หมดและทีมเวียดนามยังคงเล่นเกมเพาเวอร์เพลย์อย่างต่อเนื่องหมายตีไข่แตกให้ได้

 
         น.38, 39 ที่ทีมเวียดนามเล่นเพาเวอร์เพลย์ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ยอดกองหน้าตัวเก่งทีมไทยตัดบอลจากเกมรุกของเวียดนามได้ 2 ครั้ง หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงทั้งสองลูกให้ทีมไทยหนีไปเป็น 5-0 ขึ้นนำดาวซัลโวที่ยิงไป 12 ประตู และใน น.39 เช่นกัน เจษฎา ชูเดช ยิงให้ทีมไทยหนีเวียดนามไปเป็น 6-0 นับประตูที่ 12 ของเจ้าตัวทำให้นำดาวซัลโวคู่กับ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง จนกระทั่งจบเกมการแข่งขันทีมฟุตซอลทีมชาติไทยเอาชนะไปได้ 6-0 นับเป็นชัยชนะครั้งที่ 13 ที่ทีมไทยเอาชนะทีมเวียดนามได้ส่งให้ทีมไทยหลุดเข้าไปชิงเป็นสมัยที่ 11

 
         หลังเกมการแข่งขันจบสิ้นลง วิคเตอร์ เฮอร์แมน กุนซือทีมฟุตซอลทีมชาติไทยชาวฮอลแลนด์ ได้กล่าวว่า "เกมนัดนี้ทีมไทยของเราเล่นกันได้ดีในครึ่งแรกมีโอกาสยิงประตูหลายครั้งแต่พลาดไปเอง มาครึ่งหลังพอยิงประตูแรกได้ก็ทำให้ไร้ความกดดันจนสามารถคว้าชัยเหนือทีมเวียดนามได้อีกครั้ง ในนัดชิงชนะเลิศอยากให้แฟนบอลเข้ามาเชียร์กันเยอะๆ เหมือนอย่างนี้อีกครั้ง เชื่อว่าทีมไทยต้องได้แชมป์อีกสมัยแน่นอนไม่ว่าในนัดชิงชนะเลิศจะเจอทีมไหนก็ตาม"

 
         ทางด้าน "บิ๊กเปี๊ยก" สมศักดิ์ ศิริธรรม ผู้จัดการทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ได้กล่าวว่า "ดีใจที่นัดนี้เราสามารถเก็บชัยชนะเหนือเวียดนามได้อีกครั้งทำให้แฟนบอลชาวไทยที่เข้ามาชมได้มีความสุข แต่จุดหนึ่งที่ต้องให้วิคเตอร์ปรับเห็นจะเป็นเรื่องจังหวะในการจบสกอร์เท่านั้น ถ้าสามารถแก้ไขจุดนี้ได้นัดชิงน่าจะไร้ปัญหา"

 
         ส่วน บรูโน ฟอโมโซ่ กุนซือทีมชาติเวียดนาม ชาวสเปน ได้กล่าวว่า "ยอมรับว่านัดนี้ทีมนักเตะไทยเล่นกันได้ดีมากมีโอกาสยิงประตูแรกมากกว่าที่เราแพ้เยอะก็เพราะโดนยิงไปแล้วก็ต้องหาโอกาสในการยิงประตูคู่ต่อสู้ เมื่อมาเล่นเพาเวอร์เพลย์ตีเสมอไม่ได้ก็ต้องแพ้เยอะเป็นธรรมดา"

 
         ด้านผลการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศอีกคู่ ออสเตรเลีย ชนะ มาเลเซีย 6-2

 
         สำหรับโปรแกรมการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ในวันศุกร์ที่ 16 ต.ค.58 เริ่ม 16.00 น. ชิงอันดับ 3 เวียดนาม-มาเลเซีย เวลา 19.00 น. ชิงชนะเลิศ ไทย-ออสเตรเลีย ที่สนามบางกอก อารีน่า หนองจอก (SMMTV, T-Sport ถ่ายทอดสดให้ชมทั้ง 2 คู่)