ความเคลื่อนไหวของขุนพลเยาวชน 19 ปี ทีมชาติไทย ยู-19 ชุดเตรียมความพร้อมเพื่อสู้ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2016 รอบคัดเลือก ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 28 ก.ย.-6 ต.ค. นี้ ภายใต้การบริหารจัดการของ "บิ๊กตั้น" ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ในฐานะผู้จัดการทีม และมี "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน และได้ยกพลมาเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมช่วงโค้ชสุดท้ายที่กิเลน วัลเล่ย์ เขาใหญ่ ในวันที่ 22 ก.ย.-26 ก.ย. ก่อนหั่นให้เหลือ 23 คนสุดท้าย เพื่อส่งรายชื่อเข้าแข่งขัน

         ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา เวลา 08.30 น. ขุนพลทีมชาติไทย ยู-19 ยังคงปักหลักฝึกซ้อมในช่วงเช้าเป็นมื้อสอง หลังจากได้เดินทางมาถึงเมื่อบ่ายวานนี้ โดยเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างลูกบอลและการเคลื่อนไหวตัวเป็นหลักใช้เวลาประมาณ 45 นาที จึงเสร็จสิ้นภารกิจในช่วงเช้า

         จากนั้นช่วงเย็น เวลา 18.00 น. มีคิวลงสนามอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายกับสโมสรสระบุรี เอฟซี ทีมดังแห่งศึกไทยลีก หลังจากลงอุ่นเครื่องมาแล้ว 2 นัด ด้วยการพ่ายแพ้โอสถสภา เอ็ม-150 ไป 1-3 และเสมอกับทีมชาติเมียนมาร์ ยู-19 ชุดลุยศึกเอเชีย ไปแบบไร้สกอร์ 0-0

         โดยเกมนี้แบ่งออกเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 45 นาที ซึ่งทาง "โค้ชจุ่น" ส่ง อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, ศิวกร แสงวงศ์, สุภโชค สารชาติ และ มีโชค มหาศรานุกูล นำทัพออกสตาร์ต 11 คนชุดแรก และ น.16 ทีมชาติไทย ยู-19 มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก สุขสันต์ มุ่งเป้า กระทั่ง น.35 จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ มาบวกสกอร์เพิ่มเป็น 2-0 และครึ่งแรกจบด้วยสกอร์นี้

         กลับมาสู่กันต่อครึ่งหลัง ทีมชาติไทยเปลี่ยนแปลงผู้เล่นยกชุด นำมาโดย ชินภัทร ลีเอาะ, สรวิทย์ พานทอง, สีหนาท สุทธิศักดิ์ 3 แข้งจากชุดนักเรียนไทยของอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด และมี ศุภชัย ใจเด็ด ลงยืนเป็นหน้าเป้า น.70 สระบุรี เอฟซี มาได้ประตูตีไข่แตก 1-2 จาก ซาดนี่ย์ ยูริคอฟ จากนั้นเป็นสระบุรีที่มาได้อีกสองประตูรวดจาก ปิยะชาติ ศรีมะเรือง น.80 และ น.90+2 ทำให้จบเกมทีมชาติไทย ยู-19 พ่าย สระบุรี เอฟซี 2-3

         หลังจบเกมทาง "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด แม่ทัพของทีม ได้เปิดเผยถึงเกมการอุ่นเครื่องที่พ่ายต่อสระบุรี 2-3 ในนัดนี้ว่า "โดยภาพรวมผมพอใจสำหรับเรื่องความเข้าใจของแท็กติกในชุดแรก ส่วนชุดที่สองยังคงต้องปรับปรุงเรื่องวินัยในเกม อีกทั้งยังต้องแก้ไขเรื่องสมาธิในช่วงท้ายเกม แต่โอเคเป็นบทเรียนที่ดีที่เราจะได้รู้และกลับไปปรับปรุง"

         ขณะเดียวกัน "โค้ชเบ๊" ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก กุนซือใหม่สระบุรี เอฟซี ได้เผยถึงฟอร์มโดยรวมของทีมชาติไทย ยู-19 ชุดนี้ว่า "ที่เห็นคือเรื่องของความสามารถเฉพาะตัวที่ดี อีกส่วนที่ประทับใจคือทักษะในการเคลื่อนไหวตัวเวลาไม่มีบอล ส่วนที่ต้องปรับปรุงที่เรื่องของวินัย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทุกคนมีอนาคตแน่"

         สำหรับเยาวชน 19 ปี ทีมชาติไทย มีคิวลงประเดิมนัดแรกของศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยมในวันที่ 30 ก.ย. 58 พบ ไต้หวัน เวลา 19.00 น., นัดสอง วันที่ 2 ต.ค. พบ นอร์เทิร์นมาเรียนา เวลา 19.00 น., นัดสาม วันที่ 4 ต.ค. พบ สิงคโปร์ เวลา 19.00 น. และนัดสุดท้ายในวันที่ 6 ต.ค. พบ เกาหลีใต้ เวลา 19.00 น. ช่องไทยรัฐทีวีถ่ายทอดสดทุกนัดที่ทีมชาติไทยลงสนาม

         ปลง! ต้นสังกัดไม่ปล่อยแข้งเข้าแคมป์
   

         สืบเนื่องจากกรณีที่นักเตะ 7 ราย ยังไม่สามารถเดินทางมาเข้าแคมป์เก็บตัวร่วมกับทีมได้ เนื่องจากติดภารกิจรับใช้ต้นสังกัด ซึ่งเรื่องนี้ทาง "โค้ชจุ่น" ได้ออกมาเผยว่า "เราเข้าใจทางสโมสรต้นสังกัดและกำลังแก้ไขปัญหาในส่วนนี้อยู่ โดยการดึงเอาความสามารถของนักเตะเราที่มีอยู่ออกมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด"

         "และผมคิดว่าน่าจะสามารถทดแทนกันได้ไม่ยาก แต่เราต้องมาปรับแก้ในเรื่องสปีดของเกม เนื่องจากทั้งยิม (วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ) และโก้ (สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ) ที่คอยยืนคุมจังหวะในแดนกลางของทีม ยังไม่สามารถเดินทางมาฝึกซ้อมได้ รวมถึงต้องเปลี่ยนรูปแบบการเล่นด้วย"

         มั่นใจมือกาวดุสเซลดอร์ฟยกระดับทีม
   

         ขณะเดียวกันทางผู้สื่อข่าวสยามกีฬาได้สอบถามถึงความคืบหน้ากรณีการเดินทางมาร่วมทีมของ สุเมธี โคกโพธิ์ นายทวารโปร์ไฟล์เยี่ยมจากทีมเยาวชนสโมสรฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ ซึ่งทางแม่ทัพของทีมได้เผยว่า "แน่นอน หากเราได้เขา (สุเมธี โคกโพธิ์) มาร่วมทีม ผมเชื่อว่าเขาจะเข้ามาช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของได้อย่างแน่นอน และมั่นใจว่าเขาได้ถูกพัฒนามาอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฝืมือ, สภาพร่างกาย หรือว่าแท็กติกต่าง"

         "ทว่าเรายังมีปัญหาสำคัญในเรื่องการสื่อสารของเขา เนื่องจากพูดภาษาไทยไม่ได้เลยและภาษาอังกฤษก็ได้เพียงนิดเดียว ทำให้ไม่แน่ว่าเราจะสื่อสารกันได้ดีเพียงใด อีกทั้งความสัมพันธ์กับแผงหลังในการสั่งงานอีกด้วย โดยเขาจะเดินทางมาถึงวันที่ 25 ก.ย. นี้ และเราก็จะทดสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันทีในตอนเย็นช่วงของการลงทีม"

         กุนซือนอร์เทิร์นฯ รับศักยภาพเป็นรองทุกทีม

         หลังจากที่ทีมชาตินอร์เทิร์นมาเรียนาเดินทางมาถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา และได้ปักหลักลงฝึกซ้อมที่จังหวัดชลบุรีทันที ล่าสุดทาง คิโยชิ เซกิกุจิ กุนซือชาวญี่ปุ่นของทีมชาตินอร์เทิร์นมาเรียนา ออกมายอมรับว่าศักยภาพเป็นรองทุกทีมในกลุ่ม เอช ของศึกชิงแชมป์เอเชีย 2016 รอบคัดเลือก รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ หลังมีทรัพยกรผู้เล่นเลือกใช้งานค่อนข้างจำกัด

         "ยอมรับว่าศักยภาพเราด้อยที่สุดในกลุ่ม เพราะเราเพิ่งรวมทีมกันได้ไม่นาน สมาคมฟุตบอลของเราก็เพิ่งก่อตั้งเพียงไม่ถึงสิบปี และผู้เล่นก็มีจำกัดมากๆ อย่างไรก็ตาม พวกเขายังหวังจะสร้างปาฏิหาริย์ ด้วยการเก็บชัยชนะให้ได้ในศึกครั้งนี้ ในโลกฟุตบอลเรามักเห็นทีมที่อ่อนชั้นสามารถเอาชนะทีมที่แข็งแกร่งกว่าได้ และเราหวังว่าจะทำได้เช่นนั้นเหมือนกัน"