ติดตามข่าวสารสโมสรฟุตบอลอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด และทีมโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี รวมทั้งข่าวฟุตบอลไทย ได้ที่เว็ปไซต์ www.assumtionuniter.com

"อุ้ม-เย็น"ฮีโร่!ไทยฮึดไล่ตามเจ๊าอิรักสุดมัน2-2
8 08 ก.ย. 58 22:32:54 น.




ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก
ทีมชาติไทย VS ทีมชาติอิรัก

 

        ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม เอฟ เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา ระหว่าง ทีมชาติไทย จ่าฝูงของสายที่ฟาดไป 6 คะแนนจาก 2 เกม ด้วยการ ชนะ เวียดนาม 1-0 (ห) และ ชนะ ไต้หวัน 2-0 (ย)

 

         พบกับรองจ่าฝูงซึ่งเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดของกลุ่ม เอฟ อย่าง อิรัก ที่เก็บไป 3 คะแนน หลังจากลงสนามเกมแรกด้วยการเปิดสนามกลาง ในกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ถล่ม ไต้หวัน ไปแบบไม่ไว้หน้าถึง 5-1

 

ส่งชุดใหญ่บู๊ทั้งสองทีม

 

         11 ผู้เล่นตัวจริงของทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทัพของ “ซิโก้”เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มาในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูเป็น กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ แบ็กขวาใช้ ทริสตอง สมชาย โด ฝั่งซ้ายเป็นหน้าที่ของ “กัปตันอุ้ม”ธีราทร บุญมาทัน เซนเตอร์ฮาล์ฟใช้ กรวิทย์ นามวิเศษ ยืนคู่กับ สุทธินันท์ พุกหอม

 

         กองกลางสองคนมี ปกเกล้า อนันต์ ยืนเป็นตัวปั้นเกมร่วมกับ สารัช อยู่เย็น ให้ สรรวัชญ์ เดชมิตร เป็นคนทำเกม ขณะที่ปีกซ้ายเป็นหน้าที่ของ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ด้านขวาใช้ มงคล ทศไกร วาง ธีรศิลป์ แดงดา ที่ยิงไปแล้ว 2 ประตูในรอบนี้ เป็นกองหน้าตัวเป้า

 

         ส่วน อิรัก ที่มี ยาห์ยะ อัลวาน คุมทัพ ไม่มีชื่อของ ยาเซอร์ คาซิม กองกลางของสวินดอน ทาว์น ตามรายงานที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า เจ้าตัวมีปัญหาภายในทีมและเดินทางกลับไปอังกฤษตั้งแต่คืนวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นที่เรียบร้อย ทว่ายังมี ยูนิส มาห์มู๊ด กองหน้ากัปตันทีม และ อาลี อั๊ดนัน ปีกซ้ายของ อูดิเนเซ่ นำทีมลงเล่นในนัดนี้

 

          ออกสตาร์ตครึ่งแรกเพียง 30 วินาทีแรก เดิร์กแฮม อิสมาอิล ลากบอลจากแดนหลังทะลุขึ้นมาทางซ้าย ทว่าจังหวะสุดท้ายบอลกลับออกหลังฝั่งเจ้าบ้าน น.3 ปกเกล้า อนันต์ ได้โอกาสซัดไกลครั้งแรก บอลยังข้ามคาน น.4 ยูนิส มาห์มูด กระแทก กรวิทย์ นามวิเศษ จากด้านหลัง ทว่าผู้ตัดสินกลับตักเตือนเพียงอย่างเดียว

 
             
          น.11 ธีราทร บุญมาทัน กึ่งยิงกึ่งผ่านผ่านฟรีคิกจากขวาเข้าไปที่เสาแรก ยูนิส มาห์มูด โหม่งออกหลัง น.12 เดิร์กแฮม อิสมาอิล ได้โอกาสยิงในเขตโทษ สารัช อยู่เย็น ตามมาบล็อกได้ทัน น.13 ยูนิส มาห์มูด ได้ตวัดยิงไปที่เสาแรก กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ทุบบอลออกหลังได้ก่อน

 
             
          น.14 ยูนิส มาห์มูด โหม่งชงไปให้ อาลี ไฟซัล วิ่งขึ้นมาทางกราบซ้ายแล้วยิงทันที บอลยังไม่ตรงกรอบอยู่ดี น.16 อาห์เหม็ด อิบราฮิม ไปดึง ธีรศิลป์ แดงดา จากด้านหลัง มาซาอากิ โตมะ ผู้ตัดสินในเกมนี้กลับไม่ให้ใบเหลือง น.18 สุทธินันท์ พุกหอม พลาดเสียบอลให้ จัสติน เมรัม กระชากบอลจากขวาเข้าไปกดที่เสาแรก บอลยังไปติดแนวรับ "ช้างศึก"

   
                                                               
"จัสติน" บวกให้ทีมเยือนนำครึ่งแรก 1-0

 
              
          น.21 อิรักหวิดได้สกอร์นำ หลังจาก ยูนิส มาห์มูด ล็อกบอลที่เสาแรกหลอกแนวรับเจ้าบ้าน แล้วปาดไปที่เสาสอง อาลี ไฟซัล เข้าชาร์จไม่ถึง น.25 อาลี อั๊ดนัน ทุ่มไปให้ ยูนิส มาห์มูด โหม่งเช็ดไปที่เสาแรก กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ตามมาคว้าบอลได้ทัน

 
            
          น.28 เจ้าถิ่นมาได้ฟรีคิกระยะ 30 หลา ปกเกล้า อนันต์ กลับยิงข้ามคาน น.30 อาลี อั๊ดนัน ได้จังหวะล้มตัวโหม่งแค่ 5 หลา บอลยังเบาไปเข้ามือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ น.33 จัสติน เมรัม กระชากบอลจากซ้ายเข้าไปในเขตโทษ โดยที่ไม่มีแข้งไทยเข้าไปสกัดแล้วยิงด้วยขวาส่งบอลเสียบเสาแรก ทำให้อิรักขึ้นนำทีมชาติไทยทันที 1-0

 
      น.37 อาลี อั๊ดนัน หลุดขึ้นมาทางกราบซ้ายแล้วลากจี้ไปที่เสาแรกก่อนยิงทันที กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ล้มตัวเซฟได้ทัน น.40 เจ้าบ้านหวิดได้ประตูตีเสมอ หลังจาก สรรวัชญ์ เดชมิตร แทงบอลไปให้ ธีรศิลป์ แดงดา ตบบอลกลับมาแล้วยิงด้วยซ้าย บอลยังไม่ตรงกรอบ น.43 สรรวัชญ์ เดชมิตร เปิดบอลจากซ้าย บอลกลับเลยตัว ธีรศิลป์ แดงดา ไปเข้ามือ นอร์ ชาบรี จากนั้นทำอะไรกันไม่ได้ หมดครึ่งแรกไทยยังตามอิรัก 0-1

 

"มาห์มูด"ตัวแสบกดส่งอิรักหนี2-0

 

         กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้แค่ 4 นาที อิรัก หนีไปเป็น 2-0 จากจังหวะที่ สารัช อยู่เย็น ทำพลาดเสียบอล ทำให้ถูกตัดก่อนที่ลูกจะถูกส่งไปให้  ยูนิส มาห์มูด ยิงเน้นๆ แม้จะติด กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ในจังหวะแรก ทว่กองหน้าอิรักก็ตามซ้ำเข้าไปจนได้ นับเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวจาก 2 นัด และเป็นการยิงทีมชาติไทยหนที่ 3 หลังจากเคยทำได้ในปี 2007 (เอเชียน คัพ) และ 2014 (เอเชียน เกมส์)


         จากนั้น ไทยพยายามทำเกมบุกเข้าใส่ เพื่อจะเอาประตูคืนแต่ว่าจบสกอร์ไม่ได้ ผ่านไปถึงนาทีที่ 65 ไทยน่าจะได้ประตู จากลูกหลุดเข้าไปของ ธีรศิลป์ แดงดา แล้วเปิดต่อให้ ปกเกล้า อนันต์ ยิงเต็มข้อ บอลพุ่งเข้ากรอบ แต่ว่านายทวารอิรักพุ่งปัดออกไปได้

 

"กัปตันอุ้ม"ใจเพชรกระหน่ำจุดโทษสุดเฉียบ-มงคลนิ่งชาร์จไทยโกงตายตี2-2


         กระทั่ง น.80 ฮูมัม ทาริค ไปทำฟาล์ว ศราวุฒิ มาสุข ล้มลงไปในเขตโทษผู้ตัดสินให้จุดโทษทันที ก่อนที่ "กัปตันอุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน จะวิ่งเข้าตะบันเต็มเท้าส่งลูกพุ่งเสยตาข่ายอย่างเฉียบขาด ซึ่งถือเป็นการสังหารที่เด็ดเดี่ยวมาก เพราะถ้ายิงต่ำกว่านี้ก็มีสิทธิ์ถูกเซฟ หรือหากสูงกว่านี้ก็อาจข้ามคานได้ ทำให้ ไทย ตีไข่แตก ไล่อิรัก มาเป็น 1-2


         เข้าสู่ น.83 เสียงเชียร์แฟนช้างศึกในสนามดังกระหึ่ม หลังจากการต่อบอลอย่างเนียนตาทางกราบซ้าย บอลไปถึง ศราวุฒิ มาสุข เปิดเข้าไปที่หน้าประตู ปกเกล้า อนันต์ ชาร์จจังหวะแรกไม่ถึง บอลเลยไปที่ มงคล ทศไกร ที่อยู่ถูกที่ถูกเวลาพอดี ปรี่เข้าทิ่มตุงตาข่ายอย่างร้ายกาจด้วยสัญชาตญาณ ทำให้ทีมชาติไทย ตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จ

    ก่อนจบเกมนาทีเดียว อิรัก เกือบดับฝันเจ้าบ้านเมื่อ อาห์เหม็ด ยาซิน ตัวสำรอง ลากหนีแนวรับ "ช้างศึก" ก่อนซัดหน้าเขตโทษหวิดเสียบเสาแต่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ปัดออกหลังไปได้อีกครั้ง จากนั้นไม่มีฝั่งใดทำสกอร์ได้ จบเกมเจ๊ากัน 2-2 แบ่งไปทีมละ 1 คะแนน ทำให้ทัพ “ช้างศึก”ยังครองจ่าฝูงต่อไป


         สำหรับผลเสมอเกมนี้ทำให้ ทีมชาติไทย สร้างสถิติไม่แพ้ อิรัก ในบ้านของตัวเองนาน 15 ปี ตั้งแต่ปี 2001-2015 โดยมีสถิติ ชนะ 3 เสมอ 3

ที่มา


Author : Actfc

    

Recommend Technology | Resolution 1024 x 798 pixel
2012 THE OFFICIAL SITE OF ASSUMPTION THOBURI FOOTBALL CLUB. All Right Reserved
VISITOR 22,794 The site was created by | I Biz Avenue