เอเอฟเอฟ ยู-19 แชมเปี้ยนชิพ 2015
ทีมชาติไทย U19 5-0 ทีมชาติมาเลเซีย U19
ที่สนามลาว เนชันแนล สเตเดี้ยม เวลา 16.00 น. ของวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา ดำรงค์ศักดิ์ ประจง ผู้สื่อข่าวฟุตบอลสยาม และ นิธิ อรรถีโสตร์ ผู้สื่อข่าวสยามสปอร์ต ฟุตบอล รายงานศึกการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ยู-19 แชมเปี้ยนชิพ 2015" ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยเป็นการลงสนามในรอบรองชนะเลิศ ระหว่าง ไทยที่เข้ามารอบมาเป็นที่ 1 ของสาย เอ พบมาเลเซีย ที่เข้ารอบมาเป็นที่ 2 ของสาย บี
"บิ๊กตั้น" อัดฉีด 1 ล้านหากผงาดคว้าแชมป์
โดยทาง "บิ๊กตั้น" ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ผู้จัดการทีมชาติไทย ยู-19 ได้ประกาศอัดฉีดในการประชุมทีมก่อนการแข่งขันว่า "สำหรับรอบแรกที่ผ่านมา เราได้มอบเงินอัดฉีดให้กับนักเตะไปแล้วจำนวน 4 แสน 5 หมื่นบาท หากสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และสามารถคว้าแชมป์อาเซียนกลับเมืองไทยได้สำเร็จ ผมเตรียมเงินรางวัลอัดฉีดเอาไว้แล้ว 1 ล้านบาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้นักเตะ"
ไทยจัด 4-3-3 วาง "สรรเสริญ" คืนทัพคุมกลาง
สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริง ภายใต้การกุมบังเหียนของ "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด กุนซือของทีม จัดทัพมาในระบบ 4-3-3 เช่นเดิม โดยใช้ ชาคร พิลาคลัง เฝ้าเสา แผงหลัง 4 คน แบ็กขวาเป็น อาทิตย์ การสังเวช แบ็กซ้ายใช้ ศรายุทธ สมพิมพ์ ส่วนเซนเตอร์ฮาล์ฟยังเป็น "เจ้าเชน" มีโชค มหาศรานุกูล จับคู่กับ ศฤงคาร พรหมสุภะ เช่นเคย
ขยับมาที่แดนกลางให้ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ คืนทัพลงเป็นตัวตัดเกม มิดฟิลด์ใช้ "เจ้ายิม" วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม คอยเดินเกมร่วมกับ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ สำหรับ 3 ประสานในแดนหน้าใช้ สุขสันต์ มุ่งเป้า ขึ้นเกมทางซ้าย และให้ วิศรุต อิ่มอุระ เวชภิรมย์ ทะลุทะลวงทางกราบขวา ส่วนหน้าเป้าวาง "เจ้าดิว" ฤทธิเดช เพ็ญสวัสดิ์ ยืนค้ำคอยล่าตาข่ายมาเลเซีย
ไทยกระหน่ำบุกได้ 3 ตุงครึ่งแรก
เขี่ยบอลเริ่มเกมมาได้เพียงนาทีที่ 2 ขุนพลทัพ "ช้างศึกจูเนียร์" ได้โอกาสทักทายทันทีเมื่อลุยเกมขึ้นกันได้สวย ก่อนที่บอลจะไปถึง ฤทธิเดช เพ็ญสวัสดิ์ ในจังหวะสุดท้าย จากนั้นตบกลับหลังคืนมาให้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ วิ่งเข้ามาตะบันด้วยขวาจากบริเวณหน้ากรอบเขตโทษระยะประมาณ 25 หลา แต่นายด่านมาเลเซียยังลอยตัวเซฟเอาไว้ได้
จากนั้นยังเป็นทีมชาติไทยที่ครองบอลเอาไว้ได้เป็นส่วนใหญ่ นาทีที่ 6 มีโอกาสลุ้นประตูอีกครั้ง เมื่อ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ได้บอลจากกลางสนาม ก่อนป้ายต่อขึ้นหน้าให้ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ กระชากบอลหนีผู้เล่นมาเลเซียแล้วแทงทะลุช่องให้ ฤทธิเดช เพ็ญสวัสดิ์ หลุดเข้าไปดวลกับนายด่านมาเลเซีย แต่ไลน์แมนดันยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน
นาทีที่ 8 ยังเป็นไทยที่มีจังหวะลุ้นประตู เมื่อต่อบอลมาถึงหน้ากรอบเขตโทษมาเลเซีย ฤทธิเดช เพ็ญสวัสดิ์ ได้บอลแต่ยังไม่มีจังหวะกลับตัวยิง ก่อนไหลใส่พานคืนหลังมาให้ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ ซัดด้วยขวาเต็มข้อจากแถวสอง บอลพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
ผ่าน 15 นาทีแรก รูปเกมของทั้งสองทีมเริ่มสูสีกันมากขึ้น และมักจะชิงจังหวะกันบริเวณกลางสนามเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ยังไม่มีจังหวะเข้าทำประตูกันเท่าที่ควร และนาทีที่ 26 อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ ได้จังหวะซัดด้วยซ้ายจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเรียดไปที่เสาสอง แต่ยังไปเข้ามือของนายด่านมาเลเซีย
นาทีที่ 28 เป็นโอกาสที่ขุนพลทัพ "ช้างศึกจูเนียร์" น่าจะได้ประตูขึ้นมากที่สุดจากจังหวะที่ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ วางบอลยาวจากแดนกลางข้ามแผงหลังมาเลเซียไปให้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ หลุดเข้าไปกระดกข้ามหัวนายด่านมาเลเซีย แต่บอลดันแรงลอยไปตกบนหลังตาข่าย
นาทีที่ 33 สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ ได้โอกาสลองซัดไกลจากหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลดันไปบล็อกกองหลังของมาเลเซียในจังหวะแรก ก่อนเด้งมาเข้าทาง สุขสันต์ มุ่งเป้า จากนั้นไหลต่อให้ วิศรุต อิ่มอุระ วิ่งเข้ามายิงแต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
กระทั่งนาทีที่ 36 ทีมชาติไทยก็มาได้ประตูขึ้นนำสำเร็จจากจังหวะที่ ฤทธิเดช เพ็ญสวัสดิ์ ที่ได้บอลบริเวณแดนของคู่ต่อสู้ จากนั้นใช้ความสามารถเฉพาะตัวกระชากหลบแผงหลังของมาเลเซีย 3-4 คน เข้าเขตโทษทางฝั่งซ้าย และก้มหน้าตะบันด้วยซ้ายทันที บอลพุ่งเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงามให้ไทยขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 42 ไทยมาได้ประตูขยับหนีห่าง เมื่อ สุขสันต์ มุ่งเป้า ได้บอลจากทางกราบซ้าย ก่อนป้ายต่อเข้ากลางให้ ฤทธิเดช เพ็ญสวัสดิ์ พักบอลหนึ่งจังหวะแล้วตัดสินใจยิงทันทีจากหน้าเขตโทษ นายด่านมาเลเซียรับบอลกระฉอกเด้งมาเข้าทาง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ วิ่งตามดาบสอง 3 หลา เข้าไปไม่พลาดให้ไทยขึ้นนำ 2-0
เข้าสู่ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 45 ไทยก็มาได้ประตูที่สาม เมื่อ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ ได้จังหวะลองส่องไกลอีกครั้งบริเวณกลางสนามระยะกว่า 40 หลา บอลพุ่งลงพื้นเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงามให้ทีมชาติไทยทิ้งห่างมาเลเซียเป็น 3-0 และครึ่งแรกจบด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังยังเหนือกว่า บวกเพิ่มอีกสองตุง
กลับมาสู้กันต่อครึ่งหลัง ยังเป็นขุนพลทัพ "ช้างศึกจูเนียร์" ที่เดินหน้าบุกเข้าใส่อย่างไม่หยุดยั้งและเพียงแค่นาทีที่ 46 ก็มาได้ประตูที่สี่ เมื่อ ฤทธิเดช เพ็ญสวัสดิ์ ใช้ความแข็งแกร่งวิ่งเบียดกับกองหลังมาเลเซียเข้าไปจิ้มบอลผ่านตัวนายด่านเสือเหลืองเข้าประตูไปให้ทีมชาติไทยทิ้งห่างไปเป็น 4-0 และเป็นประตูที่สองของ "เจ้าดิว" ในเกมนี้
นาทีที่ 65 ทีมชาติไทยมีโอกาสลุ้นประตูที่ห้า เมื่อ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวแหวกวงล้อมของแผงหลังมาเลเซียเข้าหากรอบเขตโทษก่อนได้จังหวะซัดเต็มข้อ นายด่านมาเลเซียรับกระฉอกในจังหวะแรก และเป็น สุขสันต์ มุ่งเป้า ที่วิ่งตามซ้ำดาบสอง แต่นายด่านเสือเหลืองยังพุ่งมาตะครุบเอาไว้ทัน
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ทีมชาติไทยยังเป็นฝ่ายครองเกมบุกเอาไว้ได้ทั้งหมด และนาทีที่ 71 ก็มาได้ประตูปิดกล่องจากจังหวะที่ สุขสันต์ มุ่งเป้า ได้โอกาสหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปล็อกบอลหลบนายด่านมาเลเซีย และยิงด้วยซ้ายเข้าไปอย่างง่ายดายให้ทีมชาติไทยทิ้งห่างไปเป็น 5-0
ช่วงท้ายเกมทั้งสองทีมเริ่มผ่อนเกมลงมาก เนื่องจากผลสกอร์ที่ค่อนข้างขาดลอย และก็ไม่มีทีมใดสามารถพังประตูเพิ่มได้ ทำให้จบเกม 90 นาที ทีมชาติไทย ยู-19 ถล่มเอาชนะ ทีมชาติมาเลเซีย ยู-19 ไปแบบขาดลอย 5-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึกลูกหนังชิงแชมป์อาเซียน 2015 ได้สำเร็จ