ความเคลื่อนไหวของทัพ"ช้างศึก"ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ได้นำลูกทีมเดินทางออกจาก กิเลน วัลเล่ย์ เพื่อกลับสู่กรุงเทพมหานคร โดยเข้าพักต่อที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค จากนั้นเวลา 15.30 น. ได้ไปซ้อมกันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน

         โดย"ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย ได้พาลูกทีมลงวอร์มในลำดับแรก ด้วยการแบ่งกลุ่มเล่นลิงชิงบอล จากนั้นได้แบ่งข้างแปบอลแบบเพิ่มสปีด ก่อนที่จะเน้นการเข้าทำประตูจากลูกเปิดทางริมเส้น และปิดท้ายด้วยการยิงฟรีคิก ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

         "ซิโก้"ลังเลใช้ชุดใดลับแข้ง 3 ก.ย.นี้

 
         หลังเสร็จสิ้นการฝึกซ้อม"ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แม่ทัพ"ช้างศึก"ได้เปิดเผยว่า ตนกำลังชั่งใจอยู่ว่าอาจจะให้นักเตะชุดหลักหรือจะเป็นการสลับสับเปลี่ยนผู้เล่น เนื่องจากเราอยากจะให้ทุกคนได้มีเกมแข่งขันก่อนที่จะเจอกับ อิรัก ในวันที่ 8 ก.ย.นี้"

         รวมทั้งในการเจอกับอัฟกานิสถาน ครั้งนี้ เราจะลองแท็กติกและวิธีการเล่นของทีม นอกจากนี้ยังเน้นไปที่อยากจะให้ทุกคนได้ลงสัมผัสเกม เพื่อสร้างความฟิตและความมั่นใจให้กับผู้เล่น โดยที่ตนไม่ได้เน้นไปที่ผลสกอร์กับการอุ่นเครื่องแน่นอน

 
         เนื่องจากเป้าหมายที่แท้จริงของทีม อยู่ที่การเจอกับ อิรัก ในวันที่ 8 ก.ย. ทว่าในการอุ่นเครื่องกับ อัฟกานิสถาน ตนต้องการให้นักเตะแสดงความกระหายออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้รู้ว่าใครอยากจะเป็น 11 ตัวแรกในเกมกับ อิรัก แม้ว่าตนจะมี 11 ตัวจริงที่จะเจอกับ อัฟกานิสถาน แล้ว

         2 วีกเก็บตัวได้เห็นความตั้งใจ

         ขณะเดียวกัน"ซิโก้"ได้พูดถึงการเดินทางไปเก็บตัวที่ กิเลน วัลเล่ย์ หลังจากกลับมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่เราได้ไปเข้าแคมป์ ทำให้เราได้เห็นความตั้งใจของผู้เล่นทุกคน แม้ว่าอาจจะมีอาการล้าหรือช่วงที่เจอกับมรสุมเข้าจนนักเตะไม่สบายไปบ้าง

         ทว่าในตอนนี้ผู้เล่นทุกคนต่างสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นหมายความว่าพวกเขามีความกระหายที่อยากจะเล่นเกมอุ่นเครื่องพบกับอัฟกานิสถาน และเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย พบกับ อิรัก เพราะเป้าหมายของเรารออยู่ข้างหน้าในนามทีชุดใหญ่ หลังจากทีม 16 ปี และ 19 ปี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

                                                            
         "ช้างศึก"ใส่เสื้อน้ำเงินใช้เปาเหงียน

         และในเวลา 15.00 น. ของวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน ได้มีการประชุมผู้จัดการทีมก่อนที่เกมอุ่นเครื่องระหว่างทีมชาติไทย  พบกับ อัฟกานิสถาน จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 3 ก.ย. โดยทัพ"ช้างศึก"ส่ง พ.อ.สมศักดิ์ ฤทธิรงค์วัฒนา ผช.ผจก.ทีม และ ณฐกร ฉิมพาลี เจ้าหน้าที่ทีมไปหารือในครั้งนี้

         โดยในที่ประชุมสรุปว่า ทีมชาติไทย จะสวมเสื้อสีน้ำเงิน กางเกงสีน้ำเงิน และถุงเท้าสีน้ำเงิน ส่วน อัฟกานิสถาน จะมาในชุดแข่งสีแดงลงสนามในเกมนี้ และจะสามาถเปลี่ยนตัวได้ฝั่งละ 6 คน ตามกฎของฟีฟ่าที่อนุญาตในเกมอุ่นเครื่องเท่านั้น

         ส่วนคณะผู้ตัดสินในเกมนี้ ฟุง วินห์ ดุง ผู้ตัดสินจากเวียดนามจะทำหน้าที่ชี้ขาดในเกมนี้ รวมทั้งเพื่อนร่วมชาติจะทำหน้าที่ผช.ผู้ตัดสินที่ 1 ขณะที่ ผช.ผู้ตัดสินที่ 2 เป็น อนุวัฒน์ ฝีมือช่าง และผู้ตัดสินที่ 4 เป็นทาง ศิวกร ภูอดุม

         "กวินทร์"รับอุ่นเครื่องไม่ใช่เกมง่าย

         ฝั่ง"เจ้าตอง"กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายทวารวัย 25 ปี ได้ออกมาพูดถึงเกมอุ่นเครื่องในวันที่ 3 ก.ย.นี้ ว่า "การเจอกับ อัฟกานิสถาน ครั้งนี้ คงจะไม่ใช่ง่ายสำหรับทีมชาติไทย แม้ว่าพวกเขาจะดูไม่มีชื่อเสียงอะไรมากนัก แต่ถ้าศึกษาข้อมูลจริงๆ จะเห็นได้ว่าผู้เล่นแทบทั้งทีมเล่นอยู่ต่างประเทศทั้งหมด มีทั้งเยอรมัน, ฮอลแลนด์, เดนมาร์ก, สวีเดน และรวมถึงประเทศไทย"

 
         "พวกขาเล่นบอลกับพื้นตามแบบฉบับฟุตบอลตะวันออกกลางและมีรูปร่างสูงใหญ่ แน่นอนก่อนเราจะเจอกับ อิรัก เราจะได้ลองเล่นกับทีมที่มีสไตล์คล้ายคลึงกัน ซึ่งถือเป็นผลดีกับทีมชาติไทยที่จะได้วัดคุณภาพและลองแผนการเล่นต่างๆ รวมถึงนักเตะจะได้ทำความคุ้นเคยกับสไตล์บอลแบบนี้ก่อนเกมคัดเลือกฟุตบอลโลก"

                        
         "สรรวัชญ์"เชื่อเป็นเกมทดสอบที่ดี

         ฟาก"เจ้าแคมป์"สรรวัชญ์ เดชมิตร เพลย์เมกเกอร์จากค่าย"แข้งเทพ"แบงค็อก ยูไนเต็ด บอกว่า"ในเกมที่เราจะอุ่นเครื่องกับ อัฟกานิสถาน ส่วนหนึ่งผมมองว่าเป็นแมตช์ที่ดีมากสำหรับทีมชาติไทย ที่จะได้ทดสอบขุมกำลังทั้ง 23 คนที่เรามีอยู่"

         "เนื่องจาก อัฟกานิสถาน มาจากโซนเดียวกับอิรัก ทำให้รูปแบบการเล่นรวมทั้งความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะพวกเขา คงจะมีความคล้ายคลึงอย่างมากกับ อิรัก รวมทั้งจะได้เป็นการเฟ้นหา 11 ผู้เล่นตัวจริง ในเกมที่จะลงเล่นในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย อีกด้วย"

         ไทยใช้ 4-2-3-1, "มุ้ย"ทะลวง

         สำหรับ 11 คนแรกของทีมชาติไทย ที่คาดว่าน่าจะลงสนามเจอกับ อัฟกานิสถาน ภายใต้การกุมบังเหียนของ"ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง จะมาในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูใช้ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ แบ็กขวาเป็น ทริสตัล สมชาย โด ฝั่งซ้ายใช "กัปตันอุ้"ม"ธีราทร บุญมาทัน วาง สุทธินันท์ พุกหอม เป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ กรวิทย์ นามวิเศษ

         แดนกลางให้ สารัช อยู่เย็น ตัดเกม โดยมี สรรวัชญ์ เดชมิตร เป็นตัวขับเคลื่อนเกมจากรับเป็นรุก ให้ ปกเกล้า อนันต์ เป็นหน้าต่ำ กราบซ้ายใช้ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ทางขวาเป็น มงคล ทศไกร ขณะที่หัวหอกตัวเป้าจะเป็ "เทพมุ้ย"ธีรศิลป์ แดงดา ที่ยิงไป 2 ประตูในการบุกไปชนะ ไต้หวัน 2-0 ของศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่ม เอฟ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา

         ฝั่ง สลาเวน สเคเลดซิส กุนซือ อัฟกานิสถาน น่าจะส่งผู้เล่นเต็มอัตราศึกแบบลงสนามครบครัน ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไปประเทศอิหร่าน เพื่อเปิดบ้านพบกับ ญี่ปุ่น ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย วันที่ 8 ก.ย.นี้ ไม่ว่าจะเป็น มุสตาฟา ซาไซ มิดฟิลด์ของทีมสำรอง ซังต์. เพาลี และ ไฟซอล ซาเยสเต้ ที่เล่นอยู่กับ สงขลา ยูไนเต็ด

         บัตร 2 ราคา, 3 ช่องยิงสด

         ในเรื่องของสถิติการพบกันของทั้งสองทีมนี้ ปรากฏว่า ตามข้อมูลที่ได้มีการบันทึกไว้ในนามทีมชาติ ชุดใหญ่ ทั้งทีมชาติไทย และ อัฟกานิสถาน ไม่เคยพบกันมาก่อน ซึ่งครั้งนี้จะเป็นเกมแรกที่ทั้งสองทีมโคจรมาพบกันโดยเกมอุ่นเครื่องระหว่างทีมชาติไทย พบกับ อัฟกานิสถาน ในวันที่ 3 ก.ย.นี้ จะฟาดแข้งกันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.30 น. โดยบัตรมี 2 ราคา คือ 100 และ 200 บาท โดยจะจำหน่ายที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือ www.thaiticketmajor.com รวมทั้งหน้าสนามแข่งขัน ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ที่สำคัญยังมีการถ่ายทอดสดให้กับแฟนบอลได้ชมกันผ่านทาง 3 ช่อง ประกอบด้วย ไทยรัฐทีวี (ทีวีดิจิตอล), สยามสปอร์ต ฟุตบอล (ทรูวิชั่นส์ ช่อง 694) รวมถึงสยามสปอร์ต ไลฟ์ (ทรูวิชั่นส์ 695) ตั้งแต่เวลา 19.30 น. เป็นไป