ที่สนามลาว เนชันแนล สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น. ของวันที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา ดำรงค์ศักดิ์ ประจง ผู้สื่อข่าวฟุตบอลสยาม และ นิธิ อรรถีโสตร์ ผู้สื่อข่าวสยามสปอร์ต ฟุตบอล รายงานศึกการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ยู-19 แชมเปี้ยนชิพ 2015" ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยเป็นการลงสนามของสาย เอ ระหว่าง ทีมชาติไทย แข่ง 2 นัด ชนะรวดทั้ง 2 นัด มี 6 คะแนนเต็ม หากสามารถเก็บชัยชนะได้ในเกมนี้ จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศทันที พบกับ ทีมชาติบรูไน ที่ลงแข่งไปแล้ว 3 นัด และแพ้รวดทั้ง 3 นัด ยังไม่มีคะแนน
ไทยจัด 4-3-3 ปรับทัพ 5 ตำแหน่ง
สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริง มีการปรับเปลี่ยนถึง 5 ตำแหน่งจากเกมที่เอาชนะ ฟิลิปปินส์ 4-1 จัดทัพมาในระบบ 4-3-3 โดยใช้ ทาโร่ ประสารการ เฝ้าเสา ยังเป็นชุดเดิมทั้งหมดแบ็กขวาใช้ อาทิตย์ การสังเวช แบ็กซ้าย สิรภพ สะอาดเอี่ยม ส่วนเซนเตอร์ฮาล์ฟเป็น "เจ้าเชน" มีโชค มหาศรานุกูล จับคู่กับ ศฤงคาร พรหมสุภะ
ขยับมาที่แดนกลางให้ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ รับบทเป็นกัปตันทีม มิดฟิลด์ใช้ กฤตนัย มุขระโกษะ คอยเดินเกมร่วมกับ ภัทรพล จันทร์สุวรรณ์ สำหรับ 3 ประสานในแดนหน้าใช้ สุขสันต์ มุ่งเป้า, ศุภชัย ใจเด็ด และ วิศรุต อิ่มอุระ
ไทยกระหน่ำบุกได้สองตุงครึ่งแรก
เขี่ยบอลเริ่มเกมขุนพล "ทัพช้างศึกจูเนียร์" เดินเกมบุกเข้ากดดันทันที โดยทาง บรูไน มาเน้นตั้งรับเป็นส่วนใหญ่และคอยอาศัยจังหวะสวนกลับเร็วเข้าสู้ นาทีที่ 5 ภัทรพล จันทร์สุวรรณ์ ได้บอลจากหน้ากรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนเลี้ยงตัดเข้ากลางและถูกผู้เล่นของบรูไน สกัดล้มลง แต่ผู้ตัดสินให้เล่นต่อ เนื่องจากเห็นว่าเป็นจังหวะได้เปรียบ จากนั้นบอลล้นมาทางซ้ายเข้าทาง วิศรุต อิ่มอุระ โยกหลบหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยซ้าย แต่บอลเหินข้ามคาน
นาทีที่ 12 "ช้างศึกจูเนียร์" ได้โอกาสลุ้นประตูอีกครั้ง เมื่อมาได้ลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษเยื้องมาทางซ้าย สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ รับอาสาบรรจงปั่นด้วยขวาเท้าถนัด บอลพุ่งข้ามกำแพงเกือบเสียบเสาแรก แต่นายด่านบรูไนยังไม่พลาด กระโดดลอยตัวปัดออกหลังไปได้
จากนั้นยังเป็น ไทย ที่สามารถครองเกมเอาไว้ได้ทั้งหมด นาทีที่ 16 มาได้ลูกฟรีคิกบริเวณสุดเส้นหลังริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา สิรภพ สะอาดเอี่ยม เปิดเข้ากลางประตู บอลขลุกขลิกตรงจุดโทษ ก่อนที่ ภัทรพล จันทร์สุวรรณ์ จะไหลกลับหลังให้ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ วิ่งเข้ามาแปด้วยซ้าย แต่บอลยังโด่งข้ามคาน
นาทีที่ 20 "ช้างศึกจูเนียร์" มาได้ประตูขึ้นนำสำเร็จ หลังจากพับสนามบุกอยู่นาน จากการยิงอันสุดสวยของ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ ที่ตะบันด้วยเท้าขวากว่า 30 หลา บอลพุ่งเสียบใต้คานเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ชนิดนายด่านบรูไน หมดสิทธิ์ป้องกัน
นาทีที่ 25 ทีมชาติไทยก็มาได้ประตูที่สอง เมื่อ สิรภพ สะอาดเอี่ยม ได้บอลจากริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเข้าหาประตู บอลลอยลึกไปที่เสาสอง จากนั้นนายด่านและกองหลังของบรูไน ไม่เข้าใจกันเอง ทำให้ มูฮัมเหม็ด ราฮิมิน โหม่งสกัดเข้าประตูตัวเองไป ให้ทีมชาติไทยขยับห่างเป็น 2-0
นาทีที่ 35 ไทยต่อบอลขึ้นมาจากแดนหลังกันได้สวย ก่อนที่จะเป็น สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ ห้องเครื่องคนสำคัญของทีม ที่ได้จังหวะส่องจากหน้ากรอบเขตโทษระยะประมาณ 25 หลา แต่ดันช้อนใต้บอลไปหน่อย ทำให้ หลุดกรอบออกหลังไปไกล
นาทีที่ 38 ยังเป็นไทยที่มาได้ลุ้นประตูที่สาม กฤตนัย มุขระโกษะ บรรจงเปิดลูกเตะมุมจากทางฝั่งขวา เข้ามาบริเวณเสาสองให้ ศฤงคาร พรหมสุภะ เทกตัวขึ้นโหม่งเหนือกองหลังบรูไน แต่บอลยังเหินข้ามคานไปอีกครั้ง
เข้าสู่ช่วงท้ายเกมของครึ่งแรกยังเป็นขุนพล "ช้างศึกจูเนียร์" ที่กระหน่ำบุกเข้าใส่อยู่ฝ่ายเดียว และมีโอกาสที่จะได้ประตูที่สามหลายครั้ง แต่จังหวะสุดท้ายของการจบสกอร์ยังไม่พอ ทำให้จบ 45 นาทีแรก ทีมชาติไทย ขึ้นนำ ทีมชาติบรูไน 2-0
ครึ่งหลังบวกเพิ่มสี่เม็ดถล่มบรูไนครึ่งโหล
กลับมาสู้กันต่อครึ่งหลังขุนพล "ช้างศึกจูเนียร์" ยังเดินหน้าบุกอย่างไม่หยุดยั้ง นาทีที่ 46 ศุภชัย ใจเด็ด ทะลุทะลวงเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนแทงไปทางซ้ายให้ อาทิตย์ การสังเวช วิ่งสอดขึ้นมา จากนั้นล็อกหลบกองหลังบรูไนหนึ่งจังหวะ และซัดด้วยเท้าซ้ายทันที แต่นายด่านบรูไนยังเซฟเอาไว้ได้
นาทีที่ 52 ทีมชาติไทยมาได้ประตูที่สาม จากจังหวะที่ กฤตนัย มุขระโกษะ วางยาวจากแดนตัวเองขึ้นหน้าให้ สุขสันต์ มุ่งเป้า บริเวณหน้าเขตโทษ ก่อนป้ายต่อมาทางขวาให้ ภัทรพล จันทร์สุวรรณ์ แตะบอลหนึ่งจังหวะและตะบันด้วยขวา บอลพุ่งเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงามให้ไทยทิ้งห่างเป็น 3-0
นาทีที่ 55 ยังเป็นโอกาสของทีมชาติไทย ภัทรพล จันทร์สุวรรณ์ ได้บอลจากทางหน้ากรอบเขตโทษเยื้องมาทางซ้าย จากนั้นส่งต่อให้ วิศรุต อิ่มอุระ ยิงด้วยขวา แต่บอลพุ่งชนเสาสอง และไม่มีผู้เล่นของทีมชาติไทยตามซ้ำ
เข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกม ไทยเริ่มขยับเปลี่ยนตัวสำรองลงสนาม เพื่อให้มาสัมผัสเกมจริงบ้าง และนาทีที่ 66 สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ วางบอลบอลจากกลางสนามข้ามหัวแผงหลังของบรูไนให้ สุขสันต์ มุ่งเป้า วิ่งโฉบเอาบอล แต่นายด่านบรูไนยังอ่านเกมขาดออกมาตัดบอลเอาไว้ได้
นาทีที่ 71 ขุนพล "ช้างศึกจูเนียร์" มาได้ประตูที่สี่ จากจังหวะที่ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ วางบอลยาวจากแดนกลางไปทางกราบซ้ายให้ วิศรุต อิ่มอุระ เลี้ยงบอลจี้เข้าหาเขตโทษ ก่อนใช้ความสามารถเฉพาะตัวล็อกหลบกองหลังบรูไนหนึ่งจังหวะ จากนั้นแปบอลด้วยขวา 3 หลา เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้นให้ทีมทิ้งห่างเป็น 4-0
นาทีที่ 82 ทีมชาติไทยมาได้ประตูที่ห้า จากจังหวะเล่นบอลเร็ว ก่อนที่จะเป็น สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ แทงทะลช่องเข้าเขตโทษให้ ศุภชัย ใจเด็ด สปีดไปเอาบอลแล้วล็อกเข้าขวา จากนั้นยิงทันที บอลพุ่งเสียบเสาสองเข้าประตูให้ทีมชาติไทยทิ้งห่างเป็น 5-0
ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 88 "ช้างศึกจูเนียร์" มาได้ประตูปิดกล่อง เมื่อได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย จากนั้นเล่นสั้นต่อให้ วิศรุต อิ่มอุระ บรรจงปั่นด้วยเท้าขวา บอลพุ่งเรียดเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงามให้ทีมชาติไทย ถล่มเอาชนะ ทีมชาติบรูไน เละเทะ 6-0 เก็บชัยชนะสามรวด ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศแน่นอนแล้ว
"บิ๊กตั้น"สดุดีลูกทีมหลังโชว์ฟอร์มโหด
หลังเกมทาง "บิ๊กตั้น" ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ผู้จัดการทีมชาติไทย ยู-19 กล่าวว่า "เกมวันนี้ทีมเราได้พักผู้เล่นตัวหลักเอาไว้ แต่ตัวสำรองก็ยังทำผลงานกันได้และตามเป้าหมายที่เราได้วางไว้ โดยเฉพาะการขึ้นเกมและจังหวะจบสกอร์ที่ทำกันได้ อย่างเฉียบขาด ซึ่งต้องขอชื่นชมน้องทุกคนที่ช่วยกันเล่น ส่วนตัวเชื่อมั่นรอบต่อไปเราจะสามารถสร้างผลงานได้ดียิ่งขึ้นอีกแน่นอน"
"โค้ชจุ่น"ปลื้มแข้งสำรองปรับตัวดีขึ้น
ขณะเดียวกันทาง "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด กุนซือทีมชาติไทย ยู-19 เปิดเผยว่า "ครึ่งชั่วโมงแรก เราค่อนข้างอึดอัดในเรื่องของระบบการเล่น ซึ่งทาง บรูไน เองค่อนข้างมาตั้งรับกันต่ำ แต่น้องๆ ก็หาจังหวะการยิงแถวสองกันได้ดี รวมถึงการเซตบอลทำกันอย่างเป็นรูปแบบ และสำหรับขุมกำลังสำรองที่เปลี่ยนลงไปในวันนี้ ถือว่าดีขึ้นมาก และทุกคนก็สามารถทำให้เห็นว่าปรับตัวเข้าหากันได้แล้ว ซึ่งนัดต่อไปเราจะพยายามทำงานกันให้หนักขึ้น"