การแข่งขันฟุตบอลในศึกเอเอฟซี ยู-14 รีเจนนัล เฟสติวัล 2015 ที่ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นเกมนัดสุดท้ายของแต่ละสาย โดยทีมเยาวชนไทยที่เล่นในสาย บี พบกับ สิงคโปร์ โดยผลงานที่ผ่านมา ไทยเอาชนะลาว 2-1 และแพ้เวียดนาม 1-4 ส่วนสิงคโปร์ แพ้ เวียดนาม 1-2 และชนะลาว 1-0 มี 3 แต้ม เท่ากัน
 

 
         เกมนัดนี้ทาง นายเชิดชู รักตะบุตร เอกอัคราชทูตไทยประจำกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน พร้อมแฟนบอลเข้ามาให้กำลังใจกันอย่างคึกคัก ส่วนการจัดทัพได้เน้นแข้งหลักเต็มที่ ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู กิติพัฒน์ ปิติณัฐสุนันท์  เซนเตอร์ นิติบดินทร์ มะคต, ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ แบ็กซ้าย ทวีพร ปู่แดง แบ็กขวา ธนากรณ์ ไชยศรี คู่กลาง อนันต์ ยอดสังวาลย์, พชรดนัย เขตต์ปรุ ปีกซ้าย ธนภัทร์ คำไสย ปีกขวา กัณตภณ คีรีแลง คู่หน้า ผดุงเกียรติ อาจคิดการ กับ อชิตพล คีรีรมย์
 

    
         แข้งไทยวันนี้ลงสนามด้วยความมุ่งมั่น แม้ว่าจะมีฝนตกลงมา แค่ 2 นาที ก็ได้ทักทายก่อน เมื่อ ผดุงเกียรติ อาจคิดการ กระชากบอลทางกราบขวาตบเข้ากลาง ธนภัทร์ คำไสย ได้ยิงบอลข้ามคาน ไทยตัดเกมได้ตลอด ทำให้สิงคโปร์ต้องวิ่งไล่และทำฟาวล์เป็นระยะ น.7 ไทยได้ฟรีคิกเยื้องไปทางกราบซ้าย ผดุงเกียรติ อาจคิดการ ยิงเต็มแรงบอลโด่งไป น.9 ไทยได้ฟาวล์ในจุดเดิม คราวนี้ นิติบดินทร์ มะคต ซัดบ้างไม่ตรงกรอบ

 
         ฝนเริ่มหายและมีแดดออก แข้งไทยยังคงโหมบุก น.10 ได้เตะมุมทางซ้าย ทวีพร ปู่แดง เปิดบอลขลุกขลิกหน้าประตู กัณตพล คีรีแลง ได้ซ้ำแต่เหินข้ามคานน่าเสียดาย แต่ว่านาทีถัดมา อชิตพล คีรีรมย์ กระชากบอลทางซ้าย แล้วตบกลับให้กับ ผดุงเกียรติ อาจคิดการ ยิงจ่อๆ ไม่มีเหลือ เยาวชนไทยขึ้นนำ 1-0
 

 
         แข้งลอดช่องพยายามจะฮึดสู้ น.15 แดเนียล ไอแซค เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาบอลโด่งเข้าหัว คริสเตียน ชาง โขกลงพื้นแต่ กิติพัฒน์ คว้าไว้ติดมือ ไทยยังบุกน่ากลัว และ น.20 ธนภัทร์ คำไสย เลี้ยงหนีกองหลังสิงคโปร์ 2-3 คน ทะลุเส้นหลังทางซ้ายเปิดให้กับ ผดุงเกียรติ อาจคิดการ กดเต็มข้อ 2-0 ให้ไทยนำ
 

 
         เด็กลอดช่องเริ่มรวน น.22 กัณตพล คีรีแลง โชว์ความเหนือพาบอลทะลุขึ้นมาทางขวา แล้วตัดสินใจซัดมุมแคบเข้าไปเป็น 3-0 ไทยนำ แต่ว่า น.24 กองหลังไทยพลาด เมื่อสิงคโปร์สาดบอลโด่ง กองหลังเคลียร์ไม่ขาด มูฮัมหมัด ซามานี่ วิ่งเข้ามายิงหนีมือ กิติพัฒน์ เข้าไปไล่มา 1-3 ก่อนที่ น.28 จะเปลี่ยนตัวคนแรก เอา ณัฐพงษ์ แสวงวงค์ แทน ธนากรณ์ ไชยศรี แต่ทำอะไรเพิ่มกันไม่ได้ จบครึ่งแรก ไทยนำ 3-1
 

 
         ครึ่งหลังทีมเยาวชนไทย เปลี่ยนเอา รัชพล น้ำทอง ลงเฝ้าเสา ซึ่งสิงคโปร์ปรับเกมมาเน้นบุกมากขึ้น แต่ น.32 ไทยตัดบอลในแดนตัวเองแล้วสาดยาว กองหลังสิงคโปร์เตะบอลพลาด อชิตพล คีรีรมย์ ได้โอกาสวิ่งถึงบอลก่อนที่จะกระดกข้ามหัว โอลิเวอร์ ซิม ประตูสิงคโปร์ เข้าไปเป็น 4-1 ทำให้ทีมไทยเล่นสบายขึ้น น.33 จึงเปลี่ยนเอา ธนวัฒน์ สำราญสุข แทน ณัฐพงษ์ แสวงวงศ์ โดย น.37 สิงคโปร์มีโอกาส อับดุล ราซัค ได้ยิงบอลเข้ามือ รัชพล น้ำทอง  น.40 คริสเตียน ชาง ยิงจากนอกกรอบบอลพุ่งแรงแต่ออกนอกกรอบ แข้งสิงคโปร์ยังโหมหนัก น.42 โมฮัมเหม็ด ซาฟฟี่ ยิงในกรอบเขตโทษเหน่งๆ ข้ามคานไป
 

 
         ไทยพยายามเล่นเกมช้าลง น.47 มาได้ฟรีคิกระยะ 18 หลา พอดี กัณตพล คีรีแลง ซัดติดกำแพงออกหลัง แต่ว่า น.48 อชิตพล คีรีรมย์ พลิกพาบอลได้ซัด ติดมือประตูสิงคโปร์กระดอนมาเข้าทาง ผดุงเกียรติ อาจคิดการ กดซ้ำตาข่ายแทบขาด ไทยนำ 5-1 และเป็นแฮตทริกของผดุงเกียรติ ในเกมนี้ด้วย  เกมจากนั้นจึงเล่นง่ายๆ น.50 เปลี่ยนทีเดียว 2 คน ส่ง นิวัฒน์ ศรีชมภู แทน ผดุงเกียรติ อาจคิดการ และ ธนา อิซอ แทน กัณตพล คีรีแลง ซึ่งเกมของไทยสิงคโปร์ก็ฮึดไม่ขึ้น ทำให้ น.53 ไทยเปลี่ยนอีก 2 ราย เอา ณวัฒน์ กลิ่นนาค แทน ทวีพร ปู่แดง และ ภูเบศร์ ศรีธีระเนตร แทน ธนภัทร์ คำไสย สิงคโปร์มาโหมช่วงหลังอีกครั้ง น.60 จะหมดเวลา นาเดน โจชัว ยิงไกลบอลพุ่งจะเข้าสามเหลี่ยม แต่ รัชพล น้ำทอง พุ่งปัดปลายมือ จบเกม เยาวชน 14 ปีไทยเอาชนะสิงคโปร์ส่งท้ายได้ 5-1 ทำให้มาแข่งรายการนี้ 3 นัด ไทยชนะ 2 และแพ้ 1 มี 6 แต้ม
 

 
         เชี่ยวชาญ แพรขุนทด กุนซือของทีมกล่าวว่า "ดีใจครับ วันนี้เด็กทุกคนเล่นได้ตามที่วางแผนลงไป และมีความมุ่งมั่นสูง ขยัน ช่วยกันทำให้เกมไหลลื่น และจังหวะการยิงประตูก็คมด้วย จึงทำให้มีความมั่นใจ ยังไงก็ต้องขอขอบพระคุณท่านทูต แฟนบอล ที่ได้เลี้ยงอาหารกับเด็กๆ และท่านมาให้กำลังใจพวกเราในวันนี้ ส่วนอนาคตเด็กทุกคนก็ต้องนำประสบการณ์เหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อก้าวไปสู่ทีมชาติที่สูงขึ้นต่อไป"
 

 
         ส่วน จำเนียร เศษฐาวงค์ ผจก.ทีม ก็กล่าวว่า "ต้องย้อนก่อนว่า เกมที่เราแพ้เวียดนามอาจจะมาจากหลายๆ สิ่ง แต่เกมวันนี้เราพูดคุยกัน ปรึกษากัน เพื่อให้ออกมาดีที่สุด ตามกฎเอเอฟซีที่ต้องส่งผู้เล่นทุกคนลงสนาม ก็คิดว่าเราจะวางอย่างไรให้ทีมสมดุล วันนี้ทำได้ดีตลอดเกมไม่มีข้อผิดพลาด ก็เป็นไปตามเป้าหมาย ก็ขอบคุณท่านทูต และคุณวรวีร์ มะกูดี ที่เปิดโอกาสให้เข้ามาทำงานทีมชาติ ยังไงก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ต่อไป และนำข้อผิดพลาดไปแก้ไขเพื่อให้ทีมเราแข็งแกร่งขึ้น
 

 
         สำหรับเยาวชน 14 ปีไทย จะเดินทางกลับในวันที่ 23 ส.ค. นี้ ด้วยสายการบินรอยัล บรูไน เที่ยวบิน BI 519 ถึงสุวรรณภูมิเวลา 20.00 น.