กลุ่มโคคา-โคลา ประเทศไทย เตรียมระเบิดศึกฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย หรือ "โค้ก คัพ" ครั้งที่ 19 ซึ่งปีนี้ทะยานเข้าปีที่ 36 ของเวทีสานฝันนักเตะระดับเยาวชนก้าวสู่ทีมชาติ ภายใต้การสนับสนุนของบริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด, บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด และพันธมิตรที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมฟุตบอลเพื่อเยาวชนไทย ตามเจตนารมณ์เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ผ่านกีฬาฟุตบอลที่ทุกคนชื่นชอบ
โค้ก คัพ ครั้งที่ 19 ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ประกอบด้วย การกีฬาแห่งประเทศไทย, สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, บริษัท สยามสปอร์ตซินดิเคท จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยภาคเอกชน ร่วมงานแถลงข่าว ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค เมื่อ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยมีคุณพรวุฒิ สารสิน ประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด, คุณทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้อำนวยการกองการแข่งขันกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย, ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด, คุณสุนทร มีสุวรรณ เหรัญญิก สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย, คุณโอฬาร เชื้อบาง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้สนับสนุนร่วมแถลงข่าวอย่างยิ่งใหญ่ สมศักดิ์ศรีลูกหนังเยาวชนรายการใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
"The Beginning of all Dream" จุดเริ่มต้นของการสานฝันสู่นักฟุตบอลอาชีพ คือ คอนเซปต์หลักของการจัดการแข่งขันลูกหนังโค้ก คัพ โดยเป็นจุดกำเนิดของนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย และสโมสรฟุตบอลอาชีพมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ (เอสซีจี เมืองทอง), กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (เอสซีจี เมืองทอง), สารัช อยู่เย็น (เอสซีจี เมืองทอง), เชาววัตน์ วีระชาติ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), สิทธิโชค กันหนู (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), ธีราทร บุญมาทัน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) รวมทั้ง "โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ อดีตนักเตะทีมชาติไทย และผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยชุดปัจจุบัน ต่างแจ้งเกิดจากฟุตบอล "โค้ก คัพ"
ฝ่ายจัดยังคงเน้น และเฟ้นหานักเตะที่มีอายุไม่เกิน 19 ปี โดยเชิญทีมเยาวชนจากสโมสรฟุตบอลในศึกไทยพรีเมียร์ลีก จำนวน 18 ทีม เยาวชนจากลีกดิวิชั่น 1 จำนวน 18 ทีม, ทีมเยาวชนจากลีกภูมิภาค สโมสรละ 1 ทีม นอกจากนั้นยังเปิดโอกาสให้แต่ละสโมสรส่งชื่อนักเตะต่างชาติลงสนามได้ทีมละ 1 คน ส่วนรูปแบบการแข่งขันแบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม จากจำนวนทั้งหมด 86 ทีมจากทั่วประเทศ โดยนำทีมที่ชนะเลิศในแต่ละกลุ่มทั้ง 8 กลุ่มเข้าไปแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำการจับสลากประกบคู่การแข่งขันแบบเหย้า-เยือนให้เหลือ 4 ทีม ในรอบรองชนะเลิศ และทำการแข่งขันแบบเหย้า-เยือนเพื่อหาผู้ชนะเข้ารอบชิงชนะเลิศต่อไป โดยการแข่งขันเริ่มจากกลุ่ม 1 กรุงเทพมหานคร เอสซีจี เมืองทอง เป็นเจ้าภาพ
คุณพรวุฒิ สารสิน ประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด กล่าวว่า "โค้กขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือ "โค้ก คัพ" ด้วยดีเสมอมา โดยมีเจตนารมณ์ที่ตรงกัน และต้องการยกระดับมาตรฐานการเล่นกีฬาฟุตบอลของเยาวชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ส่งเสริมให้โค้ก คัพ เป็นสนามแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ของเยาวชน เปิดโอกาสให้เยาวชนได้เล่นกีฬาที่ชื่นชอบ และแสดงความสามารถ พร้อมกับการพัฒนาทักษะไปสู่นักฟุตบอลอาชีพ ที่เป็นเป้าหมายสูงสุดของเยาวชนที่ชื่นชอบฟุตบอลทุกคน โดยทีมที่ชนะเลิศจะได้เดินทางไปร่วมฝึกประสบการลูกหนังที่ต่างประเทศอีกด้วย"
นับว่าเป็นสังเวียนลูกหนังที่ยิ่งใหญ่สำหรับเยาวชนที่คลั่งไคล้กีฬาฟุตบอลโค้ก คัพ คือทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลที่อยู่คู่กับเยาวชนไทยมายาวนาน โดยซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ ทีมฟุตบอลไทย ชุดคว้าแชมป์ มีนักเตะที่ผ่านการแข่งขันฟุตบอลโค้ก คัพ ถึง 14 คน รวมทั้ง "โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ อีกด้วย ซึ่งการแข่งขันในหลายๆ ปีที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากกองเชียร์เป็นจำนวนมาก สามารถเก็บบัตรเข้าชมเกมการแข่งขันได้สูงสุดถึง 4 แสนบาท และครั้งนี้เชื่อว่าความยิ่งใหญ่ของ "โค้ก คัพ" ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน จะเป็นเกมลูกหนังที่เข้มข้น และสร้างนักเตะสู่ทำเนียบทีมชาติอีกมากมายอย่างแน่นอน
ที่มา
|