ไทย 3 - ออสเตรเลีย 2

 
         ที่สนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม วันที่ 7 ส.ค. 2558 เวลา 18.30 น. ธนู คุณาธรรม ผู้สื่อข่าวฟุตบอลสยามรายงานการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ยู-16 แชมเปี้ยนชิพ 2015 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในรอบรองชนะเลิศ โดยเป็นการพบกันระหว่างทีมชาติไทยที่ผ่านเข้ารอบมาเป็นอันดับสองในสายเอพบกับออสเตรเลีย ทีมอันดับ 1 ในสายบี
 

 
         โดยเกมนี้มีทางด้าน "ดร.ป๊อบ" จินติยา จินารัตน์ ผู้จัดการทีมได้เดินทางมาให้กำลังใจนักเตะ และทีมงานสตาฟฟ์โค้ช และได้รับเกียรติจาก นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พร้อมด้วยผู้ช่วยอีก 2 คนเข้ามาให้กำลังใจนักเตะไทยในเกมนี้ถึงห้องแต่งตัว และร่วมชมเกมการแข่งขันพร้อมกับอำนวยความสะดวกให้แฟนบอลชาวไทยได้ชมการแข่งขันนัดนี้ด้วย

       
                                                         
จัด 11 ตัวจริงลงบู๊เต็มสูบ
 

 
         ขณะเดียวกันในเกมนี้ทางด้าน พยงค์ ขุนเณร ได้จัดขุมกำลังตัวหลักลงสนามอย่างครบครัน โดยมี วุฒิพงษ์ เที่ยงแท้, สุมนะ สลับเพชร, ธนณัฏฐ์ รุ่งรำพรรณ, วุฒิชัย คุ่มเคี่ยม, ธราดล สอนโยหา, ก้องกิดาการ กิ่งทอง, กรวิชญ์ ทะสา, จิณณวัตร รัศมี, หัสวรรษ นพเนตร, สิทธิรักษ์ เกิดขุมทอง, ณัฐพงษ์ นาคพิทักษ์ ลงสนามเป็น 11 ตัวจริง
 

 
         ส่วนทางด้านออสเตรเลียใช้ นาธาน ปรินเซ่, ดีแลน พีเรียส, เมอร์ซิม เมเมตี้, โจเอล คิง, ลุค บ็อดนาร์, อันโตนิส มาร์ติส, ลัชแลน บรู๊ค, ยาจ็อบ อิตาเลียโน่, มาร์ค โมริช, เอดูอาร์โด้ คาสตาเนด้า และ รามี่ นาจยาริเน่ ลงสนามในเกมนี้

                                                   
ครึ่งแรกไทยเน้นโต้กรวิชญ์ยิงชนเสา
 

 
         ก่อนเริ่มเกมมีฝนโปรยปรายลงมา โดยเป็นออสเตรเลียที่ครองบอลได้ลื่นไหลกว่าในช่วงแรกนาทีที่ 9 ขึ้นเกมมาทางฝั่งซ้าย ลัชแลน บรู๊ค ที่ยืนอยู่หน้าเขตโทษพักอกก่อนตวัดยิงด้วยซ้ายแต่ยิงใต้บอลแฉลบออกหลังไป
 

 
         ไทยสู้ได้สนุกเกือบจะได้ประตู 2 จังหวะต่อเนื่อง นาทีที่ 11 สิทธิรักษ์ เกิดขุมทอง พาบอลมาทางกราบขวาแล้วเปิดเรียดไปหน้าเขตโทษ จิณณวัตร รัศมี วิ่งเข้ามาแปหลุดเสาแรกไปอย่างน่าเสียดาย
 

 
         นาทีที่ 15 ออสเตรเลียต่อบอลพลาดในแดนตัวเองบอลมาเข้าเท้า กรวิชญ์ ทะสา ยิงไกล นาธาน ปรินเซ่ นายด่านออสเตรเลียพุ่งไม่ทันแล้ว แต่บอลไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
 

 
         ไทยสู้ได้ไม่เป็นรอง นาทีที่ 28 สิทธิรักษ์ เกิดขุมทอง โยกหลอกแนวรับออสเตรเลียจนหลงก่อนจะแต่งบอลเข้าซ้ายแล้วซัดจากระยะ 20 หลาบอลหลุดกรอบไปนิดเดียว
 

 
         นาทีที่ 40 กรวิชญ์ ทะสา สปีดพาบอลจี้เข้าหาเขตโทษเข้าระยะยิงแต่เลือกเปิดบอลทว่าเพื่อนเติมไม่ทัน
 

 
         ท้ายเกมนาทีที่ 45 ใกล้เคียงกับการขึ้นนำที่สุดของออสเตรเลีย ลัชแลน บรู๊ค ใส่ด้วยซ้ายจากระยะ 25 หลา บอลผ่านมือ วุฒิพงษ์ เที่ยงแท้ ไปแล้วแต่ดวงยังดีมีคานช่วยเซฟไว้ ก่อนจะจบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

       
                                                  
ครึ่งหลังไทยแจ๋วนำก่อน 3 ตุง
 

 
         ครึ่งหลังไทยมาได้ประตูนำเร็ว นาทีที่ 48 สิทธิรักษ์ เกิดขุมทอง พาบอลมาทางขวาแล้วเปิดเรียดมาหน้าประตู จิณณวัตร รัศมี ได้ยิงโล่งๆ เสียบเสาแรกไทยนำ 1-0 ถัดมานาทีที่ 52 เกมสวนกลับของไทยวันนี้มาดีตลอด ครั้งนี้ หัสวรรษ นพเนตร พาบอลขึ้นมาถึงระยะหวังผลก่อนแต่งเข้าเท้าซ้ายข้างถนัดแล้วปั่นเข้าประตูให้ไทยหนีไป 2-0
 

 
         นาทีที่ 70 ไทยปล่อยของจากเกมสวนกลับอีกครั้ง คราวนี้ กรวิชญ์ ทะสา โยกหลบผู้เล่นออสเตรเลียในเขตโทษแล้วซัดเรียดด้วยขวาบอลผ่านมือ นาธาน ปรินเซ่ ไทยหนีไปไกลเป็น 3-0
 

      
สุมนะใบแดง, ออสเตรเลียไล่ 2-3 แต่ไม่ทัน
 

  
         ทว่านาทีที่ 73 ออสเตรเลียมาได้จุดโทษ สุมนะ สลับเพชร ทำฟาวล์ผู้เล่นออสเตรเลียแถมโดนใบแดงอีก จอห์น โรเบิร์ต สังหารไม่พลาดไล่มา 1-3 ขณะที่ไทยเหลือ 10 คน
 

 
         ออสเตรเลียบุกหนักเพื่อทวงประตูคืน นาทีที่ 78 ดีแลน พีเรียส ฝ่าแนวรับทีมชาติไทยเข้าไปในเขตโทษก่อนจะยิงไล่มา 2-3 ช่วงเวลาที่เหลือออสเตรเลียอาศัยความได้เปรียบที่มีตัวผู้เล่นมากกว่าคุมเกมไว้ได้หมด แต่ก็เจาะแนวรับไทยไม่ได้ จบ 90 นาที ไทยชนะ 3-2 ทะลุผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับเมียนมาร์ที่เอาชนะลาวมาได้ด้วยสกอร์ 1-0
 
   
                                                
ดร.ป๊อบสุดปลื้มจัดอัดฉีดตอบแทนผลงาน
 

 
         ขณะที่ "ดร.ป๊อบ" จินติยา จินารัตน์ ผู้จัดการทีม กล่าวว่า "ต้องยกหัวใจน้องๆ ทุกคนที่สู้จนสุดความสามารถและคว้าชัยชนะได้สำเร็จ ขอบคุณ อาจารย์พยงค์ ขุณเณร ที่วางแผนการเล่นได้อย่างสวยงาม ซึ่งใครก็คิดว่าเราเป็นรองออสเตรเลีย แต่เกมนี้ทุกคนทำได้ ตอนนี้เป้าหมายของเราก็มองไปที่แชมป์สถานเดียว และจากชัยชนะนัดนี้ จะมีโบนัสให้กับน้องๆ อย่างงามทีเดียว แต่ยังไม่ขอบอกจำนวนตัวเลข

 
                                                                    
พยงค์รับสุดกดดันชมเด็กใจเกินร้อย
 

 
         ทาง อาจารย์พยงค์ ขุณเณร หัวหน้าผู้ฝึกสอนชมเด็กที่ทุกคนเล่นเกมรับกันด้วยความอดทน โดยเฉพาะระเบียบวินัยที่ทำกันได้ดีมาก รวมถึงการจบสกอร์วันนี้ เด็กทำได้ดี มีโอกาสและทำได้ แต่ช่วงท้ายเกมก็เกือบจะแย่เหมือนกัน เพราะเหลือ 10 คน และโดนจุดโทษด้วย แต่ก็ผ่านมาได้ ถือว่าแข็งแกร่งมาก

  
         โดยรอบชิงชนะเลิศไทยจะพบกับเมียนมาร์ วันที่ 9 ส.ค. เวลา 18.30 น. ที่โอลิมปิก สเตเดี้ยม