แข้ง "ช้างศึก" ฟอร์มแจ๋มปูพรมถล่มอินโดนีเซียกระจุย 5-0 รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก เหมา 2 เม็ด ส่วนอีก 3 ได้จาก ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ , นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ผ่านเข้าชิงเหรียญทองกับ เมียนมาร์ที่พลิกอัดเวียดนาม 2-1 ในวันจันทร์ที่ 15 มิ.ย. นี้ ในศึกฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 23 

 

 

                ฟุตบอลซีเกมส์รอบรองชนะเลิศ คู่ที่สองแข้ง"ช้างศึก" ทีมชาติไทยที่ทำผลงานดีชนะมา 5 นัดรวดในรอบแรก ลงสนามเจอกับ อินโดนีเซีย ทีมอันดับสองของกลุ่มเอ ที่พลิกเขี่ยสิงคโปร์ ตกรอบ โดยนัดนี้  โชคทวี พรหมรัตน์ กุนซือทีมชาติไทยจัดทัพระบบ 4-3-3  ประตูใช้ ชนินทร์ แซ่เอียะ แบ๊กซ้าย พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา แบ๊กขวา  นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม  คู่เซ็นเตอร์ ธนบูรร์ เกษารัตน์ กับ อาทิตย์ ดาวสว่าง กลางรับ สารัช อยู่เย็น (กัปตันทีม) , กลางรุก ชนาธิป สรงกระสิทธ์ กับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ปีกซ้าย รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก,  ปีกขวา นูรูล ศรียานเก็ม และ หน้าเป้า ชนานันท์ ป้อมบุปผา   

 

                  เริ่มเกมไทยเดินเกมรุกหนักทันที แค่นาทีแรก นูรูล ศรียามเก็ม กระชวกบอลขึ้นถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนตบเข้ากลาง บอลถูกแนวรับอินโดนีเซียโหม่งเคลียร์ทิ้ง บอลมาเข้าทาง สารัช อยู่เย็น วอลเล่ย์เปรี้ยงเดียวด้วยขวาบอลเฉียดเสาออกไปนิดเดียวถัดมาอึดใจเดียวไทยมีลุ้นอีกครั้ง  น.3 รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก พาบอลบุกถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ ชนานันท์ ป้อมปุบผา เอี้ยวตัวยิงแต่บอลยังติดเซฟ เตงกู อมิรูดดิน นายด่านอินโดนีเซีย  

 

                 อินโดนีเซียเกือบได้เช่นกันใน น.11เมื่อได้ฟรีคิกระยะอันตราย อินดา ชาย่า บรรจงปั่นด้วยขวา แต่ ชนินทร์ แซ่เอี๊ยะ ยังกระโดดปัด 2 มือทิ้งได้อย่างหวุดหวิด เกมดำเนินถึง น.13 ทีมชาติไทยเจาะประตูขึ้นนำได้สำเร็จ จากการทำชิ่งสุดสวยจากริมขวา นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ป้ายจากริมเส้นขวาเข้ากลางให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เบิ้ลเร็วต่อให้ นูรูล ศรียามเก็ม  โยกหลบแนวรับอินโดนีเซีย  พร้อมกับแปเรียด บอลพุ่งไปติดขา เตงกู อมิรูดดิน แต่ยังกระดอนมาเข้าทาง รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก ตามซ้ำดาบสองเข้าประตูไป ช่วยให้ทีมชาติไทยออกนำ 1-0   
 

                  ได้ประตูทีมไทยยังไม่เพลาการบุกเดินเกมรุกหนัก กระทั่งนาทีที่ 29 จากลูกเตะมุมฝั่งซ้าย นูรุล ศรียามเก็ม เปิดมากลางประตู  ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ โถมโขกเต็มกบาลเข้าไป ทำให้ทีมชาติไทยออกนำ 2-0ในครึ่งแรก

 

                ครึ่งหลังทีมไทยยังเล่นได้ดีกว่า โดยเฉพาะจังหวะสุดท้ายหน้าปากประตูที่ทำได้เฉียบขาด และก็มาหนีเป็น 3-0 ในนาทีที่ 51 นูรูล ศรียามเก็ม ได้บอลจากริมเส้นฝั่งขวา ก่อนครอสลึกมาที่กลางประตูให้ รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก สอดโขกลงพื้นแบบไร้ตัวประกบ บอลพุ่งเสียบตาข่าย 

 

                เกมของทีมไทยยิ่งเล่นยิ่งดี น.56 ทีมชาติไทยได้จังหวะสวนกลับเร็ว ชนานันท์ ป้อมปุบผาหลุดเดี่ยวลากจี้อยู่ที่หัวกระโหลกก่อนที่จะถูกแนวรับอินโดนีเซียพุ่งสกัดล้ม บอลทะลักมาเข้าทาง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม แบ็กขวาเติมมาซัดเหน่งๆในกรอบเยื้องริมขวา บอลกระเด้งพื้นพุ่งเข้าเสาไกลเป็นที่ประตูที่ 4 ของทีมชาติไทย

 

                นำห่าง ทีมไทยเริ่มพักตัวหลัก  ถอด สารัช อยูเย็น ออก แล้วส่ง ศิวกร จักขุประสาท ลงเล่นแทน น.63 , รวมถึง น.66 ส่ง อดิศร พรหมรักษ์ ลงแทน ธนบูรณ์ เกษารัตน์ จากนั้น น.68 ถอด ชนานันท์ ป้อมปุบผา ออก แล้วส่ง เจนรบ สำเภาดี ลงเล่นแทนแม้ว่าจะเปลี่ยนสำรองลงไปเล่น 3 ราย แต่เกมรุกของไทยยังไม่มีผ่อนเครื่อง กระทั่งนาที 89 ก็มาด้ประตูปิดท้าย 5-0 จาก ชนาธิป สรงกระสินธ์ โดยจังหวะนี้ทีมชาติไทยต่อบอลกันอย่างสวยงามถึง 22 ครั้ง ก่อนจะทำประตูได้สำเร็จ ส่งผลให้ทีมชาติไทยเข้าไปเจอกับเมียนมาร์ ในรอบชิงชนะเลิศวันจันทร์ที่ 15 มิ.ย. นี้เวลา 19.30 น.