องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ในปี พ.ศ.2542 ว่าผู้ที่มีความดันโลหิตมากกว่า 140/90 มม.ปรอท ถือว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งมีโอกาสเป็นอัมพาตหัวใจล้มเหลว หลอดเลือดหัวใจตีบมากกว่าผู้ที่ไม่มีโรคความดันโลหิตสูง และพบว่าผู้ที่มีความดันโลหิตสูงหากได้รับการรักษาจนความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติจะสามารถลดอัตราการเกิดอัมพาต หัวใจล้มเหลวได้ มีการศึกษาพบว่า คนเป็นโรคอ้วนและน้ำหนักเกินที่มีปัญหาความดันโลหิตสูงที่รับประทานมันฝรั่งสีม่วงสองครั้งต่อวันสามารถลดความดันโลหิตอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันฝรั่งทุกรูปแบบสามารถลดความดันโลหิตได้ เช่น มันฝรั่งทอด เฟรนช์ฟรายถูกจัดเป็นอาหารขยะ เนื่องจากมีโซเดียมสูงและ
“ความเป็นพิษสูง” เพราะทอดโดยใช้อุณหภูมิสูงทำให้มี “สารอะคริลาไมด์-สารก่อมะเร็ง” ออกมา ในมันฝรั่งยังมี “ค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index) อยู่สูงมาก นั่นหมายถึงเปลี่ยนให้เป็นน้ำตาลภายในร่างกายได้เร็วมาก
การศึกษาของ ดร.โจ วินสัน แห่งมหาวิทยาลัยสแครนตัน รัฐเพนซิลวาเนีย ใช้มันฝรั่งสีม่วง (Purple Majesty)
ที่ปรุงสุกอย่างถูกต้องในเตาอบไมโครเวฟโดยไม่ต้องใช้น้ำมันหรือเนย ในการศึกษาใช้อาสาสมัครที่มีสุขภาพดีรับประทานมันฝรั่งสีม่วงขนาดเล็กประมาณ 6 ถึง 8 ผลปรุงสุกในเตาอบไมโครเวฟ แล้วทำการตรวจเลือดและปัสสาวะของอาสาสมัครพบว่า สารต้านอนุมูลอิสระของเลือดและปัสสาวะของพวกเขาเพิ่มขึ้นตามปริมาณของมันฝรั่งที่รับประทาน หลังจากนั้นได้คัดเลือกอาสาสมัครสิบแปดคนที่มีน้ำหนักเกิน เป็นโรคอ้วนและมีความดันโลหิตสูง
โดยให้อาสาสมัครครึ่งหนึ่งรับประทานมันฝรั่งสุกสีม่วงพร้อมเปลือกจำนวน 6 ถึง 8 ผลในลักษณะเดียวกันตามที่กล่าวข้างต้น จำนวน 2 ครั้งต่อวัน
อาสาสมัครอีกครึ่งหนึ่งไม่มีมันฝรั่งสีม่วงเลยในอาหารของพวกเขา ผลการศึกษานี้พบว่าน้ำหนักตัวของอาสาสมัครที่รับประทานมันฝรั่งสีม่วงไม่มีการเปลี่ยนแปลง (ไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลง) ไม่มีผลกระทบต่อระดับไขมันหรือระดับน้ำตาล มีความดันโลหิตต่ำลงได้แก่ ความดันโลหิตค่าบน คือแรงดันโลหิตขณะที่หัวใจบีบตัว (Systolic) ลดลง 3.5% และความดันโลหิตค่าล่าง (Diastolic) คือ แรงดันโลหิตขณะที่หัวใจคลายตัว ลดลง 4.3% คณะนักวิจัยของ ดร.วินสันเชื่อว่า มันฝรั่งสีขาวและสีแดงอาจให้ผลเช่นเดียวกันแต่ต้องมีการวิจัยเพื่อพิสูจน์กันต่อไป
ผลวิจัยสรุปว่าการรับประทานมันฝรั่งสีม่วงสามารถลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและการอุดตันของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองในผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงได้ เนื่องจากมันฝรั่งสีม่วงมีพฤกษาเคมี (PhytoChemical คือ สารเคมีต่างๆ ที่มีอยู่ในผัก ผลไม้ เป็นสารที่ทำให้เกิดสี กลิ่น รสในผักผลไม้ มีประโยชน์ต่อร่างกายในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ) ที่ให้ผลคล้ายกับ เอซีอี อินฮิบิเตอร์ (ตัวยับยั้ง แองจิโอเทนซิน-คอนเวอร์ติง เอนไซม์ (Angiotensin-Converting Enzyme)
ซึ่งเป็นกลุ่มยาที่ใช้รักษาเบื้องต้นในโรคความดันโลหิตสูง พฤกษาเคมีนี้สามารถพบในบร็อคโคลี่ ผักโขมและสเพราท์ (ผักคล้ายกะหล่ำ) นอกจากนี้การทอด ย่างมันฝรั่งจะทำลายพฤกษาเคมีเหลือไว้เฉพาะแป้งและไขมัน ดังนั้นการปรุงอาหารมันฝรั่งด้วยไมโครเวฟจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด