.jpg)
"สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน" สโมสรเพื่อนตำรวจเปิดตัว"โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน เป็นโค้ชใหม่เข้ามากุมบังเหียนลุยศึก ยามาฮ่า ลีก วันอย่างเป็นทางการแล้ว
เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา ที่ห้องแถลงข่าวภายในสนามบุณยะจินดา สโมสรเพื่อนตำรวจได้จัดงานแถลงข่าวเซ็นสัญญา พร้อมกับเปิดตัวโค้ชใหม่ของทีมเข้ามากุมบังเหียนลุยศึกยามาฮ่า ลีก วัน แทนที่ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม อดีตแม่ทัพของทีมที่เสียชีวิตลง เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ด้วยสาเหตุติดเชื้อในกระแสเลือดและปอด ในวัย 52 ปี
โดยได้รับเกียรติจาก "เดอะบิ๊ก" สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ประธานฝ่ายบริหารสโมสรเพื่อนตำรวจ พร้อมด้วยกุนซือคนใหม่ของทีม "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน อดีตกองกลางทีมชาติไทย ที่เคยมีประสบการณ์ในการคุมทัพ บีอีซี เทโรฯ และกัลฟ์ สระบุรี เข้ามากุมบังเหียน "สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน" อย่างเป็นทางการ
และนอกจากการเปิดตัว "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน ในการเข้ามาคุมทีมเพื่อนตำรวอย่างเป็นทางการแล้ว ยังได้มีการเซ็นสัญญา 2 ปี ร่วมกันของอดีตกองกลางทีมชาติไทยรายนี้ กับ "เดอะบิ๊ก" สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ประธานฝ่ายบริหารสโมสร ท่ามกลางสื่อมวลชนทุกแขนงที่เดินทางมาทำข่าวครั้งนี้
"เดอะบิ๊ก" รับติดตามดูแม่ทัพรายนี้มานาน
"เดอะบิ๊ก" สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ประธานฝ่ายบริหารสโมสรเพื่อนตำรวจ กล่าวว่า "หลังจากทื่เราผ่านมรสุมเรื่องของ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม มาแล้ว สโมสรเราไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะหาตัวแทนกุนซือเข้ามาทำทีม โดยยอมรับว่ามีทั้งคนไทยและต่างชาติที่เราได้ดูโปรไฟล์"
"มีอยู่คนหนึ่งที่ผมติดตามผลงานมาตลอด นั่นคือ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน ที่เขาพากัลฟ์ สระบุรี เอฟซี เลื่อนขึ้นมาสู่ไทยพรีเมียร์ลีกได้ในปีนี้ และเขามีสไตล์การทำทีมที่สอดคล้องกับทีม คือการเล่นบอลบนพื้นที่เป็นปรัชญาของทีมเรามาตลอด"
"และเมื่อเขาอยู่ในช่วงที่ออกมาจากกัลฟ์ สระบุรี เอฟซี แล้ว เราจึงรีบติดต่อไปหาโค้ชแบนทันที ซึ่งต้องยอมรับว่าใช้เวลาในการเจรจาอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะได้รับเกียรติจากเขา ที่ตอบตกลงเข้ามาร่วมทีมเพื่อนตำรวจ ด้วยการเซ็นสัญญาเบื้องต้น 2 ปี ซึ่งก็น่าจะเป็นที่ถูกใจของแฟนบอลทีมเรา"
เชื่อโค้ชไทยเหมาะกับทีมทุกประการ
ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับประเด็นที่ว่า ทำไมสุภาพบุรุษโล่ห์เงินถึงเลือกที่จะใช้บริการ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน ทางฝั่ง "เดอะบิ๊ก" สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ประธานฝ่ายบริหารสโมสร ได้ตอบคำถามเรื่องนี้ว่า "หลังจากที่ผมเข้ามานั่งบริหารงานในสโมสร เราเริ่มต้นด้วยการใช้โค้ชต่างชาติ 2 คน ทั้ง คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัลโย่ ก่อนจะมาเป็น มิก้า ลอนน์สตรอม"
"ซึ่งเราคิดว่าปัญหาของโค้ชต่างชาติไม่ได้อยู่ที่การทำงาน เพราะว่าพวกเขามีความเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว แต่อาจจะมีเรื่องราวของการสื่อสารเข้ามาเป็นปัญหา จากนั้นเราจึงได้มาเซ็นสัญญากับ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม ที่ถือว่าเป็นกุนซือแนวหน้าของเมืองไทย"
เดอะบิ๊กยังบอกต่ออีกว่า "และสิ่งที่เราได้เห็นจากโค้ชคนไทย นั่นคือความเก่งและการสื่อสารที่รู้เรื่องมากกว่า ทำให้ผมคิดว่าคนไทยเป็นชาติที่มีโค้ชเก่งเยอะมาก รวมทั้ง "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน ก็เป็นหนึ่งในนั้น จากผลงานที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน เราจึงตัดสินใจเลือกเขาเข้ามาทำทีมเพื่อนตำรวจ เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของทีม ที่อยากจะให้เข้ามาพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่องใน 2-3 ปีนี้ รวมทั้งเขายังมีเกียรติยศและชื่อเสียงมาก อีกทั้งยังเป็นที่ยอมรับของทุกคน นอกจากนี้ยังไม่มีข้อแตกต่างกับโค้ชแต๊กอีกด้วย"
ให้เกียรติ "โค้ชแต๊ก" ตั้งรูปไว้เช่นเดิม
พร้อมกันนี้ "เดอะบิ๊ก" สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ประธานฝ่ายบริหารสโมสรเพื่อนตำรวจ ยังได้ตอบประเด็นของผู้สื่อข่าวว่า จะมีการตั้งรูป "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม อดีตกุนซือของทีม รวมทั้งเว้นที่ในซุ้มม้านั่งสำรองไว้ หนึ่งที่เช่นเดิมหรือไม่ จากการเข้ามากุมบังเหียนของ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน ในครั้งนี้
"เจตนารมณ์ของผมยังคงเหมือนเดิม นั่นคือการตั้งรูป "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม อดีตกุนซือของเราพร้อมกับเว้นที่นั่งในซุ้มม้านั่งสำรองให้กับเขาหนึ่งที่เช่นเดิม เนื่องจากเรายังคงให้เกียรติกับเขาที่ทุ่มเทให้กับสโมสรอย่างสุดกำลัง"
"แม้ว่าเราจะได้ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน เข้ามาทำทีมก็ตาม แต่ผมเชื่อว่าเราคงจะให้เกียรติกับโค้ชแต๊กต่อไป เพื่อเป็นการระลึกถึงเขาที่ทำงานอย่างหนักให้กับสโมสรเรา และสร้างคุณงามความดีไว้หลายอย่างด้วยกัน" นายใหญ่โปลิศปิดท้าย
"โค้ชแบน" เผยตัดสินใจอยู่นาน
ด้าน "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน กุนซือป้ายแดงแห่ง "สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน" เพื่อนตำรวจ เปิดใจถึงการเข้ามารับงานในถิ่นบุณยะจินดาว่า "หลังจากที่ผมออกจากสโมสรกัลฟ์ สระบุรี เอฟซี แล้ว มีหลายทีมทั้งในเอไอเอสลีก ดิวิชั่น 2, ยามาฮ่า ลีก วัน, ไทยพรีเมียร์ลีก ที่ติดต่อผมเข้าไปเจรจา รวมถึงทีมชาติไทยตามที่เป็นข่าวออกมา"
"และสโมสรเพื่อนตำรวจ คือหนึ่งในทีมที่ติดต่อผมเข้ามาเช่นกัน แม้ผมจะรู้ดีว่าเป็นเรื่องยากที่จะมาสานงานที่ดีอยู่มากแล้วในปัจจุบัน ต่อจาก "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่ผมให้ความเคารพมาตลอด ตั้งแต่ที่เราเล่นในทีมชาติไทยด้วยกัน"
"ด้วยการที่ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ประธานฝ่ายบริหารสโมสร และเขายังติดต่อผมมาโดยตลอด ทำให้แสดงให้เห็นถึงความจริงใจที่มีให้กับผม รวมทั้งทีมยังมีเป้าหมายอย่างชัดเจนที่อยากจะกลับไปเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกในปีหน้า ประกอบกับมีนักเตะที่มีคุณภาพ และอยากจะทดสอบตัวเองกับงานชิ้นนี้ ผมจึงตอบรับในการเข้ามาทำสโมสรเพื่อนตำรวจ"
รับปรึกษา "ซิโก้" ก่อนได้บทสรุป
ผู้สื่อข่าวสอบถาม "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน นายใหญ่คนใหม่แห่งถิ่นบุณยะจินดา ว่าก่อนที่จะตัดสินใจรับงานนี้ได้มีการปรึกษากับเพื่อนซี้ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทยชุดใหญ่ หรือไม่ เนื่องจากแม่ทัพ "ช้างศึก" มีแผนที่จะดึงเจ้าตัวไปช่วยในทีม
โค้ชแบนเผยว่า ก่อนที่ตนจะเข้ามารับงานกับทีมเพื่อนตำรวจ ตนได้ปรึกษาซิโก้มาแล้วเช่นกัน แม้ก่อนหน้านี้เจ้าตัวอยากจะให้ตนขึ้นมาเป็นสตาฟฟ์โค้ชในนามทีมชาติไทยชุดใหญ่ แต่ตนคิดว่ายังไม่เหมาะสมในเวลานี้ เนื่องจากตนเพิ่งจะทำหน้าที่ในนามหัวหน้าผู้ฝึกสอนมาได้ไม่กี่ปี ทั้งบีอีซี เทโรฯ 1 ปีครึ่ง และกัลฟ์ สระบุรี เอฟซี 5 ปี
รวมทั้งแนวทางของซิโก้ ที่อยากให้ช่วยทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 13 ปี ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่ตนได้ขอออกมาเก็บเกี่ยวงานกับสโมสรก่อนในช่วงนี้ เนื่องจากคิดว่ายังไม่มีประสบการณ์มากพอที่จะเข้าไปสู่ทีมชาติไทย หากถึงเวลาที่เหมาะสมก็พร้อมจะไปช่วยงานแน่นอน แต่ตอนนี้ขอโฟกัสกับสโมสรเพื่อนตำรวจเป็นลำดับแรก
ไม่กดดันแม้เจอสองทีมไทยลีกในบอลถ้วย
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ถามโค้ชแบนอีกว่า กดดันมากน้อยเพียงใดกับการเข้ามารับงานในยามาฮ่า ลีก วัน ที่แม้จะมีความคุ้นเคยดี แต่ซีซั่นนี้มีถึง 20 ทีม รวมทั้งฟุตบอลถ้วยทั้ง 2 รายการ ที่จะต้องเจอกับสโมสรจากศึกโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2015 ไม่ว่าจะเป็น ช้าง เอฟเอ คัพ 2015 รอบ 64 ทีม พบ บีอีซี เทโรศาสน (ย) วันที่ 24 มิ.ย. และโตโยต้า ลีก คัพ 2015 รอบ 32 ทีม พบ เอสซีจี เมืองทอง (ห) วันที่ 1 ก.ค. ซึ่งเจ้าตัวเปิดใจว่า
"ผมต้องยอมรับในความกดดันนี้ให้ได้ แต่ผมยังเชื่อว่าด้วยนักเตะที่เพื่อนตำรวจมีอยู่ คุณภาพไม่แตกต่างจากผู้เล่นระดับไทยพรีเมียร์ลีก แม้ว่าเป้าหมายของทีมจะสูงมาก คงจะเข้ามาปรับไม่ยากจนเกินกำลัง เพื่อให้พวกเขามีความมั่นใจมากขึ้น"
"รวมทั้งการที่ต้องเล่นในยามาฮ่า ลีก วัน ที่มี 20 ทีม คงจะไม่กดดันแน่นอน ขณะที่ฟุตบอลถ้วยทั้ง 2 รายการ ที่ต้องพบกับบีอีซี เทโรฯ และเอสซีจี เมืองทอง นั้น ด้วยคุณภาพของผู้เล่นเราไม่ด้อยไปกว่าใคร และจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด"
เริ่มคุมทีมซ้อมมื้อแรก 25 พ.ค.นี้
สำหรับการเข้ามาทำงานในครั้งแรกของ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน กับสโมสรเพื่อนตำรวจนั้น คือวันที่ 25 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นการกลับมารายงานตัวการฝึกซ้อมมื้อแรกของทีม หลังจากได้ปล่อยให้นักเตะได้พักผ่อน จากการที่ลีกได้พักเบรกให้กับทีมชาติไทย
ส่วนประวัติเจ้าตัวนั้นไม่ธรรมดาตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะ ด้วยการเริ่มต้นค้าแข้งกับราชวิถี, กรุงเทพพาณิชยการ, เซมบาวัง, ฮอง อันห์ ยาลาย และบีอีซี เทโรศาสน ขณะเดียวกันยังก้าวขึ้นมาติดทีมชาติไทย พร้อมกับพาทัพ "ช้างศึก" กวาดแชมป์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคิงส์คัพ ปี 1995, ซีเกมส์ ปี 1995, 1997, 1999 และไทเกอร์ คัพ ปี 2000
นอกจากนี้ประวัติการคุมสโมสร เริ่มจากเข้ามาคุมทัพบีอีซี เทโรฯ ในปี 2009 ก่อนที่ปี 2010 จะไปรับงานที่บ้านเกิดกับทีมกัลฟ์ สระบุรี เอฟซี นานถึง 5 ปี พร้อมกับพาต้นสังกัดก้าวขึ้นมาเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสร ในปี 2015
ที่มา www.siamsport.co.th/yamahaleague1/view.php?code=277029
|
9 
11 พ.ค. 58 20:58:55 น. 
